มะนิลา 23 ต.ค.- ฟิลิปปินส์และจีนประท้วงทางการทูตต่ออีกฝ่าย หลังจากกล่าวโทษกันเรื่องเรือของทั้ง 2 ฝ่ายชนกัน 2 ครั้งในทะเลจีนใต้เมื่อวานนี้
โฆษกกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ เผยกับสื่อในวันนี้ว่า กระทรวงได้ใช้กระบวนการทางการทูตที่มีอยู่อย่างเต็มที่ รวมถึงการเรียกนายหวง ซีเหลียน เอกอัครราชทูตจีน เข้าพบในเช้าวันนี้ แต่นายหวงไม่สะดวกและได้ส่งรองเอกอัครราชทูตมาเข้าพบแทน โฆษกกล่าวว่า แนวสันดอนอยุนงิน (Ayungin Shoal) อยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์จึงมีสิทธิอธิปไตยและเขตอำนาจเหนือแนวสันดอนนี้ กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์เคยเรียกนายหวงเข้าพบครั้งหลังสุดในเดือนสิงหาคม หลังจากหน่วยยามฝั่งจีนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือฟิลิปปินส์ในน่านน้ำใกล้แนวสันดอนดังกล่าว ด้านสถานทูตจีนประจำฟิลิปปินส์แถลงว่า นักการทูตจีนได้แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งและคัดค้านอย่างเด็ดขาดต่อการที่เรือฟิลิปปินส์รุกล้ำพื้นที่แนวปะการังเหรินอ้าย (Ren’ai Reef)
อยุนงินและเหรินอ้าย เป็นชื่อที่ฟิลิปปินส์และจีนใช้เรียกแนวสันดอนเซ็กคันด์ โทมัส (Second Thomas Shoal) ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ที่อยู่ในทะเลจีนใต้ แนวสันดอนนี้อยู่ห่างจากเกาะปาลาวันที่อยู่ทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ไป 200 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะไห่หนานหรือไหหลำของจีนมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ทั้ง 2 ประเทศต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือแนวสันดอนนี้ กองทัพเรือฟิลิปปินส์ได้นำเรือบีอาร์พี เซียร์รา มาเดร (BRP Sierra Madre) ที่เป็นเรือเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปเกยตื้นแนวสันดอนนี้ตั้งแต่ปี 2542 เพื่อจับตาการเคลื่อนไหวของจีน โดยได้ประจำการกำลังพลบนจำนวนหนึ่งไว้บนเรือ และต้องอาศัยสิ่งของยังชีพจากเรือเติมเสบียง.-สำนักข่าวไทย