โตเกียว 9 ก.ค.- นายมาร์ก การ์เปเลส์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เมาท์ก็อกซ์ (Mt.Gox) อดีตเว็บไซต์ค้าบิทคอยน์รายใหญ่จะขึ้นศาลกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า ในคดีที่บิทคอยน์จำนวนมหาศาลหายไปจากระบบจนต้องปิดตัวในปี 2557
นายการ์เปเลส์ ชาวฝรั่งเศสวัย 32 ปี ถูกจับกุมเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 และได้รับการประกันตัวในอีกเกือบปีถัดมาข้อหาจัดการข้อมูลอย่างฉ้อฉลและยักยอกบิทคอยน์ หลังจากเมาท์ก็อกซ์ที่เคยอ้างว่าค้าบิทคอยน์มากถึงร้อยละ 80 ของโลกต้องปิดตัวเพราะบิทคอยน์ 850,000 หน่วย มูลค่าในเวลานั้น 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,386 ล้านบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) หายไปจากระบบ ตอนแรกบริษัทอ้างว่าถูกเจาะระบบ ต่อมานายการ์เปเลส์อ้างว่า พบบิทคอยน์ 200,000 หน่วยตกค้างอยู่ในอุปกรณ์จัดเก็บที่ไม่เชื่อมต่อกับระบบ และได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะล้มละลายที่กรุงโตเกียวเพราะเป็นที่ตั้งบริษัท ทนายความเผยว่า เขาจะให้การต่อศาลว่าไม่ได้ทำผิด
มารดาของเขาเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า บุตรชายเป็นอัจฉริยะ สนใจศึกษาคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และสร้างโปรแกรมง่าย ๆ ได้เมื่ออายุ 5 ขวบ เขาเคยเขียนในบล็อกเมื่อปี 2549 ว่า การก่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักการจริยธรรม แต่อีก 4 ปีต่อมาถูกศาลกรุงปารีสตัดสินจำคุก 1 ปี โดยไม่ไปขึ้นศาลข้อหาเจาะระบบคอมพิวเตอร์
บิทคอยน์เป็นหนึ่งในเงินดิจิทัลซึ่งเป็นสกุลเงินเสมือนจริงหลายร้อยสกุลที่ไม่มีรัฐบาลหรือธนาคารกลางประเทศใดรับรอง แต่ยังคงเป็นที่นิยมและมีร้านค้าหลายแห่งยอมรับ กลุ่มสนับสนุนเงินดิจิทัลอ้างว่า สะดวกและรักษาความเป็นส่วนตัวในการโอนเงินออนไลน์ แต่กลุ่มไม่เห็นด้วยมองว่า เป็นการทำธุรกรรมอันตรายเพราะไม่มีกฎหมายรองรับและผันผวนสูง บิทคอยน์ซึ่งเป็นสกุลที่นิยมมากที่สุดมีมูลค่าเพียงไม่กี่เซนต์เมื่อครั้งเปิดตัวในปี 2552 ปัจจุบันทะยานไปอยู่ที่หน่วยละ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 85,355 บาท) ทั้งที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนมีมูลค่าไม่ถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34,142 บาท).-สำนักข่าวไทย