เจนีวา 12 ต.ค.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นแจ้งว่า มีคนในฉนวนกาซากลายเป็นคนพลัดถิ่นที่ต้องหนีออกจากบ้านเรือนแล้วมากกว่า 338,000 คน ในช่วงที่อิสราเอลยังคงระดมถล่มดินแดนปาเลสไตน์แห่งนี้
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติหรือโอซีเอชเอ (OCHA) แถลงในวันนี้ว่า ยังคงมีการพลัดถิ่นหมู่ทั่วฉนวนกาซา โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้นอีก 75,000 คน ทำให้รวมเป็น 338,934 คนแล้ว ผู้พลัดถิ่นราว 2 ใน 3 อาศัยตามโรงเรียนของสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ที่เหลืออาศัยตามโรงเรียนของทางการปาเลสไตน์ บ้านญาติ โบสถ์ และสถานที่พักพิงอื่น ๆ
โอซีเอชเอระบุว่า ฉนวนกาซามีผู้พลัดถิ่นอยู่แล้ว 3,000 คนเพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นก่อนกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักของอิสราเอลนอกจากทำให้บ้านเรือนเสียหายจนไม่สามารถอาศัยได้ 2,540 หลัง เสียหายบางส่วน 22,850 หลัง ยังมีสาธารณูปโภคสำคัญเสียหายด้วย เช่น ระบบกำจัดขยะสำหรับประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ทำให้มีขยะจำนวนมากตกค้างตามท้องถนน เสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ฉนวนกาซาเป็นพื้นที่แคบ ๆ ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้านเหนือและด้านตะวันออกติดกับอิสราเอล ด้านตะวันตกเฉียงใต้ติดกับอียิปต์ มีประชากร 2 ล้าน 3 แสนคนอาศัยอย่างแออัดในพื้นที่ 365 ตารางเมตร ถือเป็นพื้นที่หนาแน่นเป็นอันดับ 3 ของโลก.-สำนักข่าวไทย