จาการ์ตา 8 ก.ค.- อินโดนีเซียแจ้งว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศแล้ว 485 คน ในจำนวนนี้ 107 คน เป็นผู้ต้องคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และเป็นชาวออสเตรเลียมากถึง 92 คน
เว็บไซต์บอร์เดอร์เมล์ในออสเตรเลียระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวตอกย้ำถึงความจำเป็นของกฎหมายยกเลิกหนังสือเดินทางผู้ชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่ออสเตรเลียประกาศใช้เป็นประเทศแรกของโลกเมื่อเดือนพฤษภาคม และว่าอินโดนีเซียแซงหน้าไทย ฟิลิปปินส์และมาเลเซียขึ้นเป็นจุดหมายอันดับหนึ่งของชาวออสเตรเลียที่นิยมท่องเที่ยวทางเพศตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โดยเฉพาะเกาะบาหลี ทางการออสเตรเลียและอินโดนีเซียจึงได้ทำข้อตกลงในปลายปี 2557 ให้อินโดนีเซียสามารถห้ามชาวออสเตรเลียเข้าประเทศหากได้รับแจ้งจากกรมตำรวจออสเตรเลียว่าเป็นผู้ต้องคดีล่วงละเมิดทางเพศ ทางการออสเตรเลียเผยว่า ปีที่แล้วมีผู้ต้องคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กเดินทางไปต่างประเทศเกือบ 800 คน
กลุ่มโปรเจ็กต์กามาต่อต้านการฉวยประโยชน์ทางเพศจากเด็กที่วิ่งเต้นให้ ส.ว.แดร์รีน ฮินช์ ของออสเตรเลียผลักดันกฎหมายยึดหนังสือเดินทางผู้ต้องคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กเผยว่า กำลังวิ่งเต้นให้สหรัฐและนิวซีแลนด์ออกกฎหมายลักษณะเดียวกัน เพื่อสกัดไม่ให้ผู้ต้องคดีเดินทางไปทำผิดกับเด็กในต่างประเทศ
คดีอื้อฉาวที่สุดเป็นคดีของนายโรเบิร์ต แอนดรู ฟิดเดส เอลลิส ชาวรัฐวิกตอเรียวัย 70 ปี ที่ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี จากการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหญิงบนเกาะบาหลี 11 คน เขายืนกรานว่าไม่สมควรถูกจำคุกเพราะไม่ได้ทำผิดร้ายแรง และได้จ่ายเงินทุกครั้ง.-สำนักข่าวไทย