โตเกียว 31 ต.ค.- ผลสำรวจทั่วญี่ปุ่นพบว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะมีคะแนนนิยมทั่วประเทศลดลงในขณะที่กำลังมีประเด็นถกเถียงเรื่องขยายวาระดำรงตำแหน่งของนายอาเบะและการปฏิบัติการกิจใหม่ของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดสอบถามความเห็นชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศระหว่างวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมาพบว่า รัฐบาลอาเบะได้คะแนนนิยมร้อยละ 53.9 ลดลงจากร้อยละ 55.7 ในการสำรวจเมื่อเดือนกันยายน ขณะที่คะแนนไม่นิยมเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เป็นร้อยละ 33.2 ผลสำรวจพบว่า สิ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจกังวลคือการที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) จะหาทางแก้ระเบียบให้นายอาเบะสามารถชิงตำแหน่งประธานพรรควาระ 3 ปี ได้เป็นสมัยที่ 3 เท่ากับขยายวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปโดยปริยาย ผู้ตอบร้อยละ 51.8 ไม่เห็นด้วยกับการแก้ระเบียบดังกล่าว นายอาเบะจะหมดวาระประธานพรรคแอลดีพีในเดือนกันยายน 2561
ผลสำรวจพบด้วยว่า ผู้ตอบร้อยละ 57.4 คัดค้านการให้กองกำลังป้องกันตนเองเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญรักสงบของญี่ปุ่นที่ใช้มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ภารกิจใหม่นี้อาจทำให้สมาชิกกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นถูกส่งไปประจำการเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพยูเอ็นที่ตกอยู่ในอันตราย นอกจากนี้ผู้ตอบร้อยละ 66.5 ยังเห็นว่า รัฐสภาหรือที่เรียกว่าสภาไดเอทยังไม่จำเป็นต้องรีบให้สัตยาบันข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก (ทีพีพี) ในการประชุมสมัยปัจจุบัน และควรดำเนินการในเรื่องนี้อย่างรอบคอบ.- สำนักข่าวไทย