โปแลนด์ 7 ก.ค.-สารคดีโลก วันนี้จะพาไปชมอุตสาหกรรมเผาถ่านในโปแลนด์ ซึ่งกำลังเสี่ยงจะหมดไป เพราะถ่านที่นำเข้าจากต่างประเทศถูกกว่าและข้อบังคับของสหภาพยุโรป
ซิกมุนต์ เฟอร์ดีกีล คนเผาถ่านวัย 69 ปี กำลังขนไม้บีชขนาดใหญ่เข้าเตาเผาเพื่อแปลงสภาพให้กลายเป็นถ่าน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลายาวนาน เฟอร์ดีกีลเป็นหนึ่งในคนเผาถ่านไม่กี่คนที่ยังหลงเหลืออยู่ในป่าแห่งนี้ทางภาคใต้ของโปแลนด์ เขายึดอาชีพนี้มากว่า 40 ปีแล้ว
เฟอร์ดีกีลบอกว่า เขาใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง ขนไม้ใส่เตาเผา การนำไม้เข้าเตาเผาจำเป็นต้องวางให้ถูกตำแหน่ง ไม้ท่อนหนาที่สุดควรวางไว้ตรงกึ่งกลางเหนือเตาเผา เมื่อเต็มเตาเผาแล้วก็จะจุดไฟเผาตามกรรมวิธีที่เรียกว่า การกลั่นแบบแห้ง ซึ่งใช้เวลานานหลายวัน โดยเฟอร์ดีกีล จะคอยเฝ้าดูจนกระทั่งไม้เหล่านี้กลายสภาพเป็นถ่านที่มีคุณภาพ
แม้ว่าภายในเตาเผาไม่มีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ช่วย แต่ด้วยประสบการณ์ยาวนานหลายสิบปี ก็ทำให้เฟอร์ดีกีลทราบดีว่า เมื่อใดจึงจะได้ถ่านคุณภาพดี ซึ่งเขาบอกว่า เมื่อควันกลายเป็นสีขาว แสดงว่าไม้กลายเป็นถ่านแล้ว แต่หากควันกลายเป็นสีฟ้า ก็แสดงว่าไม้ได้กลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว แต่คนทั่วไปอาจจะมองไม่ออก
จากสถิติพบว่า เมื่อปี 2543 มีแหล่งเผาถ่านอยู่มากกว่า 50 แห่งในแถบเทือกเขาทางภาคใต้ของโปแลนด์ มีเตาเผารวม 600 เตา ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่ถึง 10 คน และมีเตาเผาอยู่เพียงแค่ 40 เตา สาเหตุเพราะมีการนำเข้าถ่านราคาถูกกว่าจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครน นอกจากนี้ หากใครผลิตถ่านตั้งแต่ 1-100 ตัน จะต้องลงทะเบียนกับสำนักงานเคมียุโรป พร้อมทั้งจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์คุณภาพผลผลิต ซึ่งอาจเป็นค่าใช้จ่ายก้อนโต ทำให้อุตสาหกรรมเผาถ่านแทบไม่ได้กำไร เฟอร์ดีกีลเชื่อว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อุตสาหกรรมเผาถ่านของโปแลนด์ก็จะกลายเป็นอดีตไปในที่สุด.-สำนักข่าวไทย