วอชิงตัน 7 ต.ค. – ศูนย์เพื่อการศึกษาทางยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ ที่มีสำนักงานในกรุงวอชิงตันของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า ภาพจากดาวเทียมในสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่า การจราจรทางรถไฟตามแนวชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซียมีความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ในขณะที่หลายฝ่ายมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการขนส่งอาวุธระหว่างกันหลังการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสองประเทศ
บียอน พาราเรล (Beyond Parallel) ซึ่งเป็นโครงการของศูนย์เพื่อการศึกษาทางยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies) กล่าวว่า ภาพความคมชัดสูงที่ได้จากดาวเทียมในวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นตู้รถไฟบรรทุกสินค้าจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คือมีประมาณ 73 ตู้จอดอยู่ที่สถานีรถไฟทูมันกังในเมืองราซ็อน ซึ่งเป็นเมืองขายแดนเกาหลีเหนือที่ติดกับรัสเซีย บียอน พาราเรล กล่าวว่า ระดับการจราจรที่ชายแดนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับการสังเกตุการณ์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แม้แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 โดยมีตู้รถไฟไม่เกิน 20 ตู้ที่มาที่สถานีรถไฟแห่งนี้ตลอด 5 ปีก่อน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีการประชุมสุดยอดที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักระหว่างนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อเดือนที่แล้ว การประชุมสุดยอดดังกล่าวทำให้เกิดการคาดเดาว่า อาจจะนำไปสู่ข้อตกลงระหว่างสองประเทศที่รัสเซียจะช่วยเหลือเกาหลีเหนือในการพัฒนาอาวุธล้ำสมัยและเกาหลีเหนือจะตอบแทนด้วยการจัดส่งอาวุธและเครื่องกระสุนให้กับรัสเซียเพื่อใช้ในการรบกับยูเครน แต่ตู้รถไฟบรรทุกสินค้าถูกปิดด้วยผ้าใบทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่า สินค้าที่อยู่ที่สถานีรถไฟในเกาหลีเหนือเป้นอาวุธและเครื่องกระสุนหรือไม่ ในขณะที่ซีบีเอส นิวส์ ในสหรัฐ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่ระบุนามที่กล่าวว่า เกาหลีเหนือได้เริ่มการจัดส่งอาวุธให้กับรัสเซียแล้ว.-สำนักข่าวไทย