สหประชาชาติ 7 ก.ค.- ที่ประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตรียมรับรองสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ระดับโลกในวันนี้ แม้ว่าชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์คว่ำบาตรการเจรจาสนธิสัญญานี้ก็ตาม
สมาชิกยูเอ็น 141 ประเทศใช้เวลาตลอด 3 สัปดาห์เจรจาสนธิสัญญาฉบับใหม่ที่ห้ามพัฒนา สะสม หรือขู่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์อย่างเด็ดขาด หลังจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนลงมติเห็นชอบให้เปิดเจรจาสนธิสัญญานี้ด้วยคะแนน 113 เสียง คัดค้าน 35 เสียง และงดออกเสียง 13 เสียง ประเทศที่มีนิวเคลียร์ 9 ประเทศได้แก่สหรัฐ รัสเซีย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส อินเดีย ปากีสถาน เกาหลีเหนือ และอิสราเอลไม่เข้าร่วมการเจรจานี้ แม้แต่ญี่ปุ่นที่เป็นเหยื่อระเบิดนิวเคลียร์ประเทศเดียวของโลกก็ไม่เข้าร่วมการเจรจา เช่นเดียวกับสมาชิกส่วนใหญ่ขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
เอกอัครราชทูตคอสตาริกาในฐานะประธานการประชุมกล่าวว่า โลกรอสนธิสัญญานี้มานานกว่า 70 ปีแล้ว กลุ่มประเทศที่สนับสนุนหวังว่า สนธิสัญญาฉบับใหม่จะเพิ่มแรงกดดันให้ประเทศนิวเคลียร์ปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างจริงจังมากขึ้น ขณะที่กลุ่มชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์แย้งว่า อาวุธนิวเคลียร์เป็นเครื่องป้องกันการถูกโจมตีด้วยนิวเคลียร์ และจะยึดถือสนธิสัญญาห้ามแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (เอ็นพีที) ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2513 ต่อไป คาดว่าที่ประชุมยูเอ็นจะลงมติรับรองสนธิสัญญานี้ด้วยเสียงเอกฉันท์โดยไม่มีกลุ่มชาตินิวเคลียร์และพันธมิตรร่วมลงมติด้วย จากนั้นจะเปิดให้ลงนามภายในวันที่ 20 กันยายน และจะมีผลบังคับใช้เมื่อมีประเทศให้สัตยาบันครบ 50 ประเทศ.- สำนักข่าวไทย
