กรุงเทพฯ 4 ต.ค.- สำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสระบุว่า เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ สะท้อนถึงปัญหาการใช้ปืนก่อความรุนแรงในไทยที่เกิดจากหลายปัจจัย
เอเอฟพีระบุว่า เหตุยิงล่าสุดในไทยครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนถึงวาระครบ 1 ปีเหตุอดีตตำรวจใช้ทั้งมีดและปืนถูกกฎหมายที่ซื้อในโครงการสวัสดิการรัฐบาลก่อเหตุสังหาร 24 ศพที่ศูนย์เด็กเล็กในจังหวัดหนองบัวลำภูในวันที่ 6 ตุลาคม 2565 เว็บไซต์กันโพลิซี (GunPolicy.org) ระบุว่า ไทยเป็น 1 ในประเทศที่มีการครอบครองปืนมากที่สุดในภูมิภาคราว 10 ล้านกระบอก คิดเป็น 1 กระบอกต่อประชากรไทยทุก 7 คน และมีคนเสียชีวิตเพราะปืนเกือบ 1,300 คนในปี 2562 เทียบกับ 130 คนในเวียดนามที่มีประชากรมากกว่าไทยถึงร้อยละ 40
ดร. บุญวรา สุมะโน นักวิชาการอาวุโสของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยหรือทีดีอาร์ไอ (TDRI) ชี้ว่า สังคมไทยมีค่านิยมเรื่องต้องดูแข็งแรง ดูมีอำนาจ และปืนคือสิ่งที่จะแสดงออกในเรื่องนี้ ขณะที่นายมีเชล ปีการ์ นักวิจัยอิสระด้านการแพร่ขยายอาวุธขนาดเล็กและการทุจริตมองว่า ปัญหาที่แท้จริงคือโครงการสวัสดิการที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลได้รับส่วนลดในการซื้อปืนจากหน่วยงานโดยตรง เพราะไม่จำกัดจำนวนปืนและเครื่องกระสุนที่จะซื้อเหมือนการซื้อแบบพลเรือน นำมาซึ่งปัญหาตำรวจบางนายนำไปขายต่อตลาดมืดเพื่อหากำไร แหล่งข่าวเผยว่า บุคคลทั่วไปต้องซื้อปืนในราคา 100,000 บาท แต่โครงการสวัสดิการจำหน่ายเพียง 30,000-40,000 บาท.-สำนักข่าวไทย