บากู 1 ต.ค.- อาเซอร์ไบจานปัดข้อกล่าวหาเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนเชื้อสายอาร์เมเนียในดินแดนนากอร์โน-คาราบัค และยืนยันว่าให้เสรีภาพในการอยู่หรือออกจากพื้นที่
นายฮิคเม็ต ฮาจีเยฟ ที่ปรึกษาทางการทูตของประธานาธิบดีอิลฮาม อาลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ว่า อาเซอร์ไบจานไม่สามารถยอมรับข้อกล่าวหาเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้กำลังกับพลเรือน ซึ่งเป็นสิ่งที่อาร์เมเนียเคยกระทำกับอาเซอร์ไบจานเมื่อ 30 ปีก่อน แต่อาเซอร์ไบจานจะไม่ทำ ไม่มีการใช้ความรุนแรงหรือกระทำการโหดร้ายกับพลเรือนแม้แต่รายเดียว และไม่มีพลเรือนอาร์เมเนียในคาราบัค เพราะอาเซอร์ไบจานถือว่าคนในคาราบัคคือพลเรือนอาเซอร์ไบจาน แต่โชคร้ายที่กลุ่มแยกดินแดนผิดกฎหมายไม่เปิดทางให้ได้สื่อสารด้วยโดยตรง
ที่ปรึกษาทางการทูตของประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานเผยว่า การหารือกับคนเชื้อสายอาร์เมเนียเป็นไปด้วยดี โดยเน้นเรื่องการปลดอาวุธ ทางการได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาก่ออาชญากรรมสงครามประมาณ 5-6 คน ส่วนคนอื่น ๆ ที่วางอาวุธสามารถตัดสินใจได้เองว่าจะเดินทางไปอาร์เมเนียหรือไม่ เช่นเดียวกับพลเรือนที่มีเสรีภาพในการตัดสินใจ หากเลือกที่จะยอมรับการเป็นพลเรือนอาเซอร์ไบจานก็จะได้รับความคุ้มครองเรื่องสิทธิและความปลอดภัย อาเซอร์ไบจานจะตั้งระบบการปกครองท้องถิ่นที่ให้พวกเขาสามารถบริหารจัดการกันเองในระดับท้องถิ่น
ทั้งนี้ หลังจากอาเซอร์ไบจานบุกโจมตีคาราบัคแบบสายฟ้าแลบเมื่อวันที่ 19 กันยายน นายกรัฐมนตรีนิโคล ปาชินยาน ของอาร์เมเนีย ได้กล่าวหาอาเซอร์ไบจานหลายครั้งว่า จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนเชื้อสายอาร์เมียในคาราบัคที่มีพื้นที่อยู่ในอาเซอร์ไบจานและแยกตัวเป็นสาธารณรัฐเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน เขาเผยเมื่อวันเสาร์ว่า คนในคาราบัคอพยพเข้ามาในอาร์เมเนียแล้วมากกว่า 100,000 คน จากที่มีอยู่ทั้งหมด 120,000 คน.-สำนักข่าวไทย