มาเล่ 1 ต.ค.- นายโมฮาเหม็ด มุยซู ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีนโยบายสนับสนุนจีน ชนะเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ได้เป็นประธานาธิบดีมัลดีฟส์ แทนนายอิบราฮิม โมฮาเหม็ด โซลีห์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่กระชับความสัมพันธ์กับอินเดีย
นายมุยซู วัย 45 ปี ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคคองเกรสแห่งชาติของประชาชน (People’s National Congress) ให้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมัลดีฟส์ เขาได้คะแนนมากที่สุดร้อยละ 46.06 ในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 9 กันยายน แต่เนื่องจากไม่ถึงร้อยละ 50 จึงมีการเลือกตั้งรอบ 2 เมื่อวันที่ 30 กันยายน และชนะประธานาธิบดีโซลีห์ ด้วยคะแนนร้อยละ 54.04 ต่อ 45.96 นายมุยซูมีบทบาทสำคัญในโครงการพัฒนาสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีอับดุลลา ยามีน ที่ปกครองมัลดีฟส์ระหว่างปี 2555-2561 โครงการนี้ได้รับทุนบางส่วนจากข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางของจีน (Belt and Road Initiative : BRI) เขากล่าวในการประชุมกับเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อปี 2565 ว่า หากพรรคของเขาได้กลับไปเป็นรัฐบาลอีกครั้ง จะส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของ 2 ประเทศไปอีกขั้นหนึ่ง เขาประกาศด้วยว่า จะปล่อยนายยามีนที่กำลังรับโทษจำคุก 11 ปี ข้อหาทุจริต
ด้านประธานาธิบดีโซลีห์ วัย 61 ปี ประธานพรรคประชาธิปไตยมัลดีฟส์ (Maldivian Democratic Party) แถลงยอมรับความพ่ายแพ้ก่อนเที่ยงคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น และแสดงความยินดีกับนายมุยซู เขาจะทำหน้าที่ประธานาธิบดีรักษาการไปจนถึงวันที่นายมุยซูสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 17 พฤศจิกายน นายโซลีห์ได้รับเลือกตั้งในปี 2561 เพราะประชาชนไม่พอใจที่ประธานาธิบดียามีนปกครองแบบเบ็ดเสร็จมากขึ้น และถูกกล่าวหาทำให้ประเทศติดกับดักหนี้ของจีน รัฐบาลโซลีห์พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอินเดีย แต่หลายฝ่ายกังวลเรื่องอินเดียแผ่อิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองในมัลดีฟส์.-สำนักข่าวไทย