จาการ์ตา 14 ก.ค. –รัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ตำหนิการใช้ความรุนแรงในเมียนมาอีกครั้งเมื่อวานนี้ และย้ำอีกครั้งในการสนับสนุกแผนสันติภาพ 5 ข้อที่รัฐบาลทหารเมียนมายังคงเมินเฉยในขณะที่อาเซียนยังคงพยายามหาทางสร้างความเป็นเอกภาพในการหาทางออกในวิกฤติการเมืองในเมียนมา
การประชุมเป็นเวลา 2 วันของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสิ้นสุดลงไปแล้วแต่แถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมเพิ่งจะออกมาได้ในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ชาติสมาชิกที่มีความเห็นไม่ตรงกันในแนวทางแก้ปัญหาในเมียนมาต้องใช้เวสาในการตกลงกันเรื่องเนื่อหาและถ้อยคำในแถลงการณ์ร่วม โดยในแถลงการณ์กล่าวว่า แผนสันติภาพ 5 ข้อ ที่อาเซียนตกลงกับรัฐบาลเมียนมาเมื่อ 2 ปีก่อนแม้ว่ายังไม่สามารถริเริ่มดำเนินการได้ แต่ยังคงเป็นความหวังที่ดีที่สุดดของอาเซียนในการแก้ปัญหาในเมียนมา แม้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาประเทศไทยจะเริ่มดำเนินขั้นตอนของตนเองแยกจากอาเซียน
แถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกล่าวว่า อาเซียนขอยืนยันจุดยืนร่วมกันที่ว่า แผนสันติภาพ 5 ข้อที่เป็นฉันทามติยังคงเป็นหลักการในการแก้ไขวิกฤติการณ์การเมืองในเมียนมา อาเซียนขอตำหนิการใช้ความรุนแรง ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศ การใช้ปืนใหญ่และการทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการยุติการใข้ความรุนแรงแบบไม่เลือกหน้าและประณามการการขยายการใช้ความรุนแรงใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น นอกจากนั้นยังขอให้ทุกฝ่ายที่อยู่ในความขัดแย้งในเมียนมา สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและเปิดการเจรจาที่ทุกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้อง
นักการทูตของอาเซียนรายหนึ่งเปิดเผยว่า การที่แถลงการณ์ร่วมออกมาช้าเพราะมีการแก้ไขถ้อยคำภาษาเกี่ยวกับเมียนมา ประเทศสมาชิกอาเซียนบางชาติต้องการกลับไปติดต่อสัมพันธ์กับรัฐบาลเมียนมาในทันทีในขณะที่ประเทศอื่น ๆ แผนสันติภาพ 5 ข้อจะต้องยังคงเป็นหลักการพื้นฐานในการกลับไปสานสัมพันธ์กับเมียนมา ซี่งเรื่องนี้เป็นสิ่งชี้ชัดว่าอาเซียนมาความเห็นเรื่องเมียนมาแตกออกเป็น 2 ฝ่าย.-สำนักข่าวไทย
