บรัสเซลส์ 21 มิ.ย.- ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยในเบลเยียมชี้ว่า เหตุคนร้ายสุดโต่งลงมือคนเดียวจะยังเกิดขึ้นต่อไปในหลายประเทศ หลังเกิดเหตุคนร้ายปลดชนวนระเบิดขนาดเล็กในสถานีรถไฟใต้ดินใจกลางกรุงบรัสเซลส์เมื่อวานนี้
คล็อด โมนิก อดีตสายลับชาวฝรั่งเศสที่ผันตัวมาเป็นที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยในเบลเยียมเผยกับสถานีโทรทัศน์อาร์ทีแอลในยุโรปว่า เหตุการณ์ล่าสุดในกรุงบรัสเซลส์คล้ายกับเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวที่เกิดขึ้นกับหลายเมืองในยุโรปในช่วงไม่นานมานี้ เป็นคนร้ายสุดโต่งที่มีอาวุธจำกัดและได้รับการฝึกฝนไม่มาก เหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอีกในยุโรปอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรักกำลังถูกกดดันอย่างหนักจากกลุ่มชาติตะวันตกซึ่งมีเบลเยียมรวมอยู่ด้วย แม้ว่าหลายครั้งจะเป็นการก่อเหตุของคนร้ายมือสมัครเล่นก็ตาม
สำนักงานอัยการเบลเยียมแถลงว่า เหตุคนร้ายปลดชนวนระเบิดในสถานีเซ็นทรัลเมื่อเวลา 20.30 น.วันอังคารตามเวลาเบลเยียม ตรงกับเวลา 01.30 น.วันพุธตามเวลาในไทย ก่อนถูกทหารลาดตระเวนยิงวิสามัญ เจ้าหน้าที่ถือว่าเป็นเหตุก่อการร้าย ด้านนายกรัฐมนตรีชาร์ลส์ มีเชลแถลงหลังประชุมคณะที่ปรึกษาความมั่นคงว่า จะคงการเตือนภัยทั่วประเทศไว้ที่ระดับสูงสุดอันดับสองต่อไป หลังจากยกระดับเตือนภัยตั้งแต่กลุ่มสาวกไอเอสในกรุงบรัสเซลส์ก่อการร้ายในกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ตามด้วยเหตุก่อการร้ายในกรุงบรัสเซลส์เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน หลังจากนั้นก็เกิดเหตุร้ายตามเมืองต่าง ๆ ในยุโรป ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ที่อ้างว่าทำไปเพื่อไอเอส เมืองหลวงเบลเยียมแห่งนี้เป็นที่ตั้งขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และสหภาพยุโรป (อียู) มีประชากร 1.2 ล้านคน เกือบ 1 ใน 4 เป็นมุสลิม.-สำนักข่าวไทย