โซล 5 ก.ค.- เกาหลีใต้จะตรวจสอบเครื่องหมายประเทศต้นทางของอาหารทะเลนำเข้าด้วยความเข้มงวดพิเศษอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในช่วงที่กำลังมีกระแสวิตกเรื่องญี่ปุ่นมีแผนจะปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล
นายพัก ซัง-ฮุน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาสมุทรเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า มาตรการตรวจสอบเข้มงวดเป็นเวลา 100 วันจะเริ่มใช้ในเดือนนี้ เพื่อตรวจสอบว่า ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ค้าปลีกได้ทำเครื่องหมายแสดงประเทศต้นทางของอาหารทะเลที่มาจากต่างประเทศอย่างเหมาะสมหรือไม่ กระทรวงจะระดมบุคลากรที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งจากในกระทรวง รัฐบาลท้องถิ่น หน่วยยามฝั่ง กลุ่มประชาชน และสมาคมบริการด้านอาหารมาช่วยกันตรวจสอบเข้มงวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้ประชาชนซื้อและรับประทานอาหารทะเลได้อย่างสบายใจ ผู้ฝ่าฝืนมาตรการจะถูกลงโทษสถานหนัก ผู้ไม่ทำเครื่องหมายแสดงประเทศต้นทางจะถูกปรับเป็นเงินสูงสุด 10 ล้านวอน (ราว 268,150 บาท) ส่วนผู้ปลอมแปลงเครื่องหมายจะถูกจำคุกสูงสุด 7 ปี หรือปรับเป็นเงินสูงสุด 100 ล้านวอน (ราว 2.68 ล้านบาท)
เกาหลีใต้ประกาศเรื่องนี้ หลังจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA) เผยเมื่อวานนี้ว่า รายงานการทบทวนที่ใช้เวลา 2 ปีพบว่า แผนการของญี่ปุ่นที่จะปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเลในเร็ว ๆ นี้ เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของไอเออีเอ
ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เกาหลีใต้นำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น 10,710 ตัน คิดเป็นร้อยละ 2 ของอาหารทะเลที่นำเข้าทั้งหมด อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ได้ห้ามการนำเข้าอาหารทะเลจาก 8 จังหวัดที่อยู่ใกล้จังหวัดฟุกุชิมะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2556 เพราะกังวลเรื่องปริมาณรังสีปนเปื้อนหลังจากเกิดอุบัตินิวเคลียร์ปี 2554 รัฐบาลเกาหลีใต้ยืนยันว่า จะไม่ยกเลิกคำสั่งนี้เพราะสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมอ่อนข้อได้.-สำนักข่าวไทย