รัสเซียสกัดโดรนยูเครนใกล้สนามบินในมอสโก

มอสโก 4 ก.ค.- รัสเซียเผยว่า ได้สกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนของยูเครนจำนวน 5 ลำที่กระทำการอันเป็นการก่อการร้าย เพราะก่อกวนการทำงานของท่าอากาศยานนานาชาติวนูโคโวในกรุงมอสโก


โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียโพสต์ในเทเลแกรมวันนี้ว่า การที่รัฐบาลยูเครนพยายามโจมตีเขตที่มีโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน รวมถึงท่าอากาศยานที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ ถือเป็นการก่อการร้ายครั้งใหม่ ด้านกองทัพรัสเซียแถลงว่า ได้ยิงโดรนตกทั้งหมด 5 ลำ โดย 4 ลำถูกยิงด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศ และ 1 ลำถูกสกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อนตกลงสู่พื้น การสกัดโดรนครั้งนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน

สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตีของทางการรัสเซียอ้างสำนักงานบริการเหตุฉุกเฉินว่า โดรน 1 ลำถูกสกัดขณะบินอยู่ห่างจากท่าอากาศยานวนูโคโวไป 40 กิโลเมตร การทำงานของท่าอากาศยานแห่งนี้ถูกรบกวนชั่วขณะจากการโจมตีดังกล่าว ทำให้เที่ยวบินหลายเที่ยวต้องเปลี่ยนไปใช้ท่าอากาศยานอื่น ต่อมาสำนักงานการขนส่งทางอากาศแห่งชาติของรัสเซียแจ้งว่า การจราจรที่ท่าอากาศยานวนูโคโวกลับมาเป็นปกติเมื่อเวลา 12:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่ท่าอากาศยานอื่น ๆ ในกรุงมอสโกและแคว้นมอสโกก็ดำเนินงานตามปกติ


นายเซอร์เก โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกระบุว่า เป็นความพยายามโจมตีด้วยโดรนครั้งใหม่ของยูเครน กรุงมอสโกซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนยูเครน 500 กิโลเมตรตกเป็นเป้าโจมตีด้วยโดรนถี่ขึ้นในช่วงหลายเดือนมานี้ โดยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม มีโดรน 2 ลำถูกยิงตกเหนือทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย จากนั้นในเดือนเดียวกันมีโดรน 1 ลำพุ่งชนอาคารระฟ้าในกรุงมอสโก

ขณะเดียวกันยูเครนแจ้งในวันนี้ว่า รัสเซียได้ใช้โดรนชาเฮดผลิตในอิหร่านจำนวน 22 ลำ โจมตีแคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือ แคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออก และแคว้นซาปอริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน กองกำลังยูเครนสามารถทำลายโดรนเหล่านี้ได้ทั้งหมด 16 ลำ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย