fbpx

ชี้สงครามยูเครนกัดกร่อน “ปูติน” และเป็นโอกาสของซีไอเอ

วอชิงตัน 2 ก.ค.- ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ของสหรัฐชี้ว่า สงครามยูเครนได้กัดกร่อนผู้นำรัสเซีย และสร้างโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตให้แก่ซีไอเอ


นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอ กล่าวที่มูลนิธิดิตช์ลีย์ในสหราชอาณาจักรเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า การที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียรุกรานยูเครนเป็นความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทันทีและเฉียบพลันต่อระเบียบโลกปัจจุบัน โดยได้กล่าวถึงเรื่องที่นายเยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์อ้างว่า กองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีกำลังคนของเขาในยูเครน กลุ่มคนชั่วในรัสเซียเปิดฉากสงครามเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวเอง และกำลังพลของรัสเซียกำลังล่าถอยในพื้นที่ฝั่งตะวันออกและทางใต้ของยูเครนว่า ถ้อยคำและการกระทำของนายปริโกชินจะมีผลไประยะหนึ่ง และเป็นการเตือนอย่างชัดเจนว่าสงครามของปูตินได้กัดกร่อนสังคมและระบอบของเขาเอง สงครามนี้เป็นความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียที่เปิดโปงความอ่อนแอของกองทัพ ทำร้ายเศรษฐกิจ และกระตุ้นให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตแข็งแกร่งขึ้นและเติบโตยิ่งขึ้น

ผู้อำนวยการซีไอเอกล่าวว่า ความไม่พอใจในสงครามนี้จะกัดกร่อนปูตินต่อไป และจะสร้างโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตให้แก่ซีไอเอซึ่งจะไม่ปล่อยให้โอกาสสูญเปล่า ซีไอเอได้โพสต์ในเทเลแกรมเมื่อนานมานี้ แจ้งให้ชาวรัสเซียทราบถึงช่องทางในการติดต่อกับซีไอเอผ่านดาร์กเว็บ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ซ่อนตัวอยู่ในอินเทอร์เน็ต มีคนเข้ามาชมแล้ว 2 ล้าน 5 แสนคนในช่วงสัปดาห์แรก


ผู้อำนวยการซีไอเอกล่าวถึงจีนด้วยว่า เป็นประเทศเดียวที่มีทั้งเจตนารมณ์ที่จะปรับเปลี่ยนระเบียบโลก และมีอำนาจทางเศรษฐกิจ การทูต การทหารและเทคโนโลยีในการทำเช่นนั้น พร้อมกับเตือนว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกำลังเพิ่มการกดดันทั้งในประเทศและความก้าวร้าวในต่างประเทศ ซีไอเอจึงได้ตั้งศูนย์ภารกิจเรื่องจีนเป็นการเฉพาะ โดยได้เพิ่มสัดส่วนงบประมาณด้านจีนถึง 2 เท่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง