ปารีส 27 มิ.ย. – ผลวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมที่เผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า ปี 2565 โลกสูญเสียป่าฝนคิดเป็นพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรือเนเธอร์แลนด์ หรือเทียบกับสูญเสียป่าขนาด 1 สนามฟุตบอล ในทุก 5 วินาที
กลุ่มจับตาป่าโลก หรือโกลบอล ฟอเรสต์ วอทช์ สังกัดสถาบันทรัพยากรโลก หรือดับเบิลยูอาร์ไอ (WRI) เผยแพร่รายงานว่า ปี 2565 มีการทำลายป่าทั่วโลกมากกว่า 41,000 ตารางกิโลเมตร เป็นปีที่ป่าถูกทำลายมากเป็นอันดับ 4 ในรอบ 2 ทศวรรษ และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปี 2564 ทั้งที่ผู้นำโลกประกาศในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ที่กลาสโกว์ ในปี 2564 ว่าจะหยุดยั้งและพลิกฟื้นการสูญเสียป่าภายในปี 2573
รายงานระบุว่า การทำลายป่าเขตร้อนทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกปล่อยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากถึง 2,700 ล้านตัน เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในอินเดีย โลกกำลังสูญเสียป่าซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ การค้ำจุนสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของคนหลายล้านคน เพราะพืชพรรณและดินช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 30 มาตั้งแต่ปี 2503 ขณะที่โลกปล่อยก๊าซเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 และมีคน 1,600 ล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งเป็นคนพื้นเมือง ดำรงชีวิตด้วยการพึ่งพาอาศัยป่าโดยตรง
รายงานระบุว่า บราซิล สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หรือดีอาร์ซี (DRC) และโบลิเวีย เป็น 3 ประเทศที่ป่าถูกทำลายมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 43, 13 และ 9 ของป่าที่ถูกทำลายทั่วโลก ตามลำดับ การทำลายป่าในบราซิลเพิ่มขึ้นมากในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ที่ปกครองประเทศระหว่างปี 2562-2565 เพราะปล่อยให้มีการลอบตัดไม้และไม่คุ้มครองสิทธิชนพื้นเมือง ขณะที่การทำลายป่าในดีอาร์ซีเกิดจากระบบเกษตรกรรมแบบยังชีพและการตัดและเผาไม้ทำฟืน เนื่องจากประชากรมากกว่าร้อยละ 80 ไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนการทำลายป่าในโบลิเวียส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งเหลือไม่มากแล้วในประเทศนี้ เพื่อปลูกต้นโกโก้ ทำเหมือง และเกิดไฟป่า.-สำนักข่าวไทย