ปารีส 14 มิ.ย.- สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ (IEA) เตือนว่า ความต้องการน้ำมันโลกจะถึงจุดสูงสุดก่อนสิ้นคริสต์ทศวรรษนี้ จากนั้นจะอ่อนตัวลง เนื่องจากวิกฤตพลังงานได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานสะอาด
ไออีเอคาดการณ์ในรายงานความต้องการน้ำมันระยะปานกลางปี 2566 ที่เผยแพร่วันนี้ว่า ความต้องการน้ำมันโลกรายปีจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่างมากในช่วง 5 ปีข้างหน้า จากที่เพิ่มขึ้นวันละ 2 ล้าน 4 แสนบาร์เรล ในปี 2566 เหลือเพิ่มขึ้นวันละ 400,000 บาร์เรล ในปี 2571 ความต้องการน้ำมันโลกจะถึงจุดสูงสุดก่อนปี 2573 เนื่องจากการเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาดกำลังก้าวหน้าอย่างมาก เนื่องจากมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และมีความก้าวหน้าเรื่องการประหยัดพลังงานและเทคโนโลยีอื่น ๆ ผู้ผลิตน้ำมันจำเป็นต้องให้ความใส่ใจต่อก้าวย่างของการเปลี่ยนแปลง และคำนวณการตัดสินใจด้านการลงทุน เพื่อให้การเปลี่ยนถ่ายเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ราคาน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้นมากในปี 2565 เมื่อรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ และลดการส่งก๊าซธรรมชาติให้ยุโรป ขณะที่ชาติตะวันตกพากันคว่ำบาตรและกำหนดเพดานราคาน้ำมันส่งออกของรัสเซีย หวังตัดท่อน้ำเลี้ยงที่เป็นแหล่งสนับสนุนการทำสงคราม อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันและก๊าซโลกได้ปรับตัวลดลงในช่วงหลายเดือนมานี้ แม้ว่าโอเปกพลัสที่ประกอบด้วยประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกและประเทศนอกกลุ่มได้ตกลงกันในเดือนเมษายนว่า จะลดกำลังผลิตโดยสมัครใจวันละมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลก็ตาม.-สำนักข่าวไทย