กรุงเทพ 2 มิ.ย. – สหประชาชาติกล่าววันนี้ว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดในเอเชียใช้เส้นทางในทะเลในการลักลอบขนส่งยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ออกจากเมียนมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนั้นยังเพิ่มกำลังการผลิตเคตามีน หรือ ยาเค เนื่องจากต้องการจะขยายธุรกิจผิดกฎหมายด้านนี้
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นโอดีซี กล่าวในรายงานประจำปีที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า ยาบ้าจากรัฐฉานในเมียนมา กำลังถูกลักลอบนำออกนอกประเทศโดยทางเรือ เพื่อหลีกเลี่ยงการลาดตระเวนทางบกที่ดำเนินการอย่างเข้มงวดตามเส้นทางผ่านจีนและประเทศไทย การเพิ่มการลาดตระเวนตรวจจับยาเสพติดในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทำให้เจ้าหน้าที่จีนและไทยยึดยาเสพติดได้น้อยลงในปี 2022 เนื่องจากเครือข่ายค้ายาเสพติดหันไปใช้เส้นทางในทะเลเป็นทางเลือกในการขนส่งยาเสพติด
เจเรมี ดักกลาส ผู้แทนระดับภูมิภาคยูเอ็นโอดีซี กล่าวว่า นักค้ายาเสพติดยังคงขนส่งยาเสพติดจำนวนมากผ่านทางลาวและทางเหนือของไทย แต่ในขณะเดียวกันก็มีการขนส่งยาเสพติดผ่านทางภาคกลางของเมียนมาไปยังทะเลอันดามัน ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีการตรวจจับน้อย โดยระบุว่า ยาบ้าที่ผลิตในเมียนมาจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังบังกลาเทศและอินเดีย
ส่วนอีกด้านหนึ่ง นักวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า มีหลักฐานว่า เครือข่ายยาเสพติดกำลังหาแนวทางทำให้ยาเสพติดที่จำหน่ายมีความหลากหลาย ในปี 2022 เจ้าหน้าที่ทั่วภูมิภาคยึดยาเคได้ 27.4 กิโลกรัม ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ หรือเพิ่มขึ้น 167 เปอร์เซ็นต์จากปี 2021 การค้นพบโรงงานลักลอบผลิตยาเค และโกดังเก็บยาทั่วประเทศเมียนมา เป็นสัญญานเตือนภัยในภูมิภาค การที่พบการขนส่งยาบ้าและยาเคผสมกัน แสดงให้เห็นว่า กลุ่มอาชญากรพยายามผลักดันให้ยาเสพติด 2 อย่างนี้ไปด้วยกันเพื่อเพิ่มความต้องการของตลาด.-สำนักข่าวไทย