โดฮา 12 มิ.ย. – ทางการกาตาร์ประกาศอนุญาตให้พลเมืองจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) บาห์เรน และชาติอื่นๆ ที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ สามารถพำนักอยู่ภายในประเทศได้ และว่า การประกอบธุรกิจส่งออกก๊าซธรรมชาติยังคงดำเนินไปอย่างปกติ
เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้ว ที่ซาอุดีอาระเบียและอีกหลายชาติประกาศตัดสัมพันธ์และการติดต่อทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศกับกาตาร์ โดยอ้างเหตุผลว่า กาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย อย่างไรก็ดี กาตาร์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และว่า พร้อมที่จะเจรจาหาทางออกวิกฤตทางการทูตในครั้งนี้
นอกจากนี้ สื่อทางการรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า กาตาร์จะไม่ใช้มาตรการใดๆ ต่อพลเมืองของชาติที่ประกาศตัดสัมพันธ์กับกาตาร์ และว่า พวกเขา ซึ่งมีกว่า 11,000 คนยังคงสามารถพำนักอยู่ในกาตาร์ได้ตามปกติ แต่ซาอุดีอาระเบีย ยูเออี และบาห์เรน กลับประกาศสั่งให้ชาวกาตาร์เดินทางออกจากประเทศภายใน 14 วัน
อย่างไรก็ดี ทางการกาตาร์ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของบรรดาชาติอาหรับไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยยังสามารถดำเนินธุรกิจได้เป็นปกติ ในส่วนของการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกในปี 2565 นายจิอันนี อินฟานติโน ประธานฟุตบอลสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เชื่อว่า ปัญหาดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดฟุตบอลโลกของกาตาร์.- สำนักข่าวไทย