วอชิงตัน 2 พ.ค. – กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า พวกเขากำลังจะยื่นฟ้องร้องสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ หรือ เอฟเอเอ ซึ่งกำกับดูแลด้านการบินของสหรัฐ โทษฐานไม่ดำเนินการมากเพียงพอในการปกป้องสิ่งแวดล้อมจากโครงการ “สตาร์ชิพ” ของสเปซเอ็กซ์
ศูนย์กลางเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ ซีบีดี หนึ่งในกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ยื่นฟ้องร้องกล่าวว่าพื้นที่ที่เป็นฐานปล่อยจรวดอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์คุ้มครอง เช่น เต่าทะเลเคมป์ริดลีย์ (Kemp’s ridley) นก พิบพิ่ง โพลเวอร์ (piping plover) ที่หากินตามชายหาด
ความเคลื่อนไหวในการยื่นฟ้องเอฟเอเอครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการระเบิดในระหว่างการทดสอบบินเที่ยวแรกของจรวด “สตาร์ชิพ” ซึ่งเป็นจรวดที่มีพลังมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา จรวดระเบิดหลังจากถูกปล่อยออกจากฐานที่รัฐเทกซัสเพียง 4 นาที คลิปภาพที่สเปซเอ็กซ์ บริษัทด้านกิจการอวกาศและเป็นเจ้าของ “สตาร์ชิพ” นำออกเผยแพร่นั้นแสดงให้เห็นเศษซากชิ้นส่วนต่าง ๆ ปลิวว่อนกระจายไปไกลถึงอ่าวเม็กซิโก ที่อยู่ห่างออกไป 425 เมตร ในขณะที่เมฆฝุ่นลอบปกคลุมเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร
เอฟเอเอ ออกใบอนุญาตให้สเปซเอ็กซ์ปล่อยจรวด “สตาร์ชิพ” ได้ปีละ 50 ครั้ง เป็นระยะเวลา 5 ปี ในขณะที่กำหนดให้บริษัทสเปซเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีและซีอีโอของสเปซเอ็กซ์ เฝ้าตรวจสอบพืชและสัตว์ป่า โดยใช้นักชีววิทยาที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการสำรวจทั้งก่อนและหลังการปล่อยจรวด แต่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวว่า มาตการบรรเทาความเสียหายยังไม่มากเพียงพอ โดยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบ.-สำนักข่าวไทย