ซิดนีย์ 3 พ.ย.- โรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งหนึ่งในรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียจะเลิกกิจการในเดือนมีนาคมปีหน้า เนื่องจากบริษัทฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าของเห็นว่าไม่คุ้มทุนแล้วหลังจากผลิตไฟฟ้ามานานกว่าครึ่งศตวรรษ
เอนจีของฝรั่งเศสประกาศจะปิดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินเฮเซลวูดในย่านลาโทรบวัลลีย์ ซึ่งจะทำให้ต้องเลิกจ้าง 500 คน ส่วนอีก 250 คนจะจ้างไว้จนถึงปี 2566 เพื่อรื้อถอนโรงไฟฟ้าและฟื้นฟูเหมืองถ่านหินที่อยู่ติดกัน ขณะเดียวกันกำลังพิจารณาขายโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินอีกแห่งหนึ่งในย่านเดียวกันและโรงไฟฟ้าพลังแก๊สในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ผู้บริหารเอนจีประจำออสเตรเลียแถลงว่า โรงไฟฟ้าเฮเซลวูดผลิตไฟฟ้ามานานกว่า 50 ปี แต่ขณะนี้มาถึงจุดที่ไม่คุ้มจะดำเนินการอีกต่อไปเมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต เพราะจะต้องลงทุนอีกหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐในการบำรุงรักษาให้มีความปลอดภัยต่อไป
โรงไฟฟ้าเฮเซลวูดผลิตไฟฟ้าร้อยละ 22 ของความต้องการใช้ในรัฐวิกตอเรีย หรือราวร้อยละ 4 ของทั้งประเทศ เอนจีถือหุ้นอยู่ร้อยละ 72 ที่เหลือร้อยละ 28 เป็นของมิตซุยของญี่ปุ่น รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศเมื่อปลายปีก่อนว่า เอนจีที่รัฐบาลถือหุ้นอยู่บางส่วนเตรียมยุติการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์จากฝีมือมนุษย์ ด้านกลุ่มสิ่งแวดล้อมระบุว่า โรงไฟฟ้าเฮเซลวูดก่อมลพิษมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเพราะใช้ถ่านหินสีน้ำตาลที่ก่อมลพิษมากกว่าถ่านหินสีดำ ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานจะติดตามผลกระทบจากการปิดโรงไฟฟ้าดังกล่าว หลังจากที่มีการปิดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินไปแล้วหลายแห่งทั่วประเทศ ข้อมูลปี 2557-2558 ระบุว่า ไฟฟ้าที่ใช้ในออสเตรเลียร้อยละ 63 มาจากถ่านหิน.- สำนักข่าวไทย