ฝรั่งเศส 14 เม.ย. – ชาวฝรั่งเศสหลายแสนคนออกมาชุมนุมประท้วงต้านแผนปฏิรูประบบเงินบำนาญของรัฐบาลครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินในวันนี้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวชอบธรรมหรือไม่
ผู้จัดการชุมนุมประท้วงเมื่อวานนี้อ้างว่ามีผู้ออกมาชุมนุมทั้งในกรุงปารีสและอีกหลายเมืองทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านคน แต่ถือว่าต่ำกว่าการประท้วงใหญ่เมื่อเดือนที่แล้วที่อ้างว่ามีผู้ออกมาร่วมชุมนุมกว่า 3.5 ล้านคน ขณะที่กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสประเมินว่ามีผู้ออกมารวมตัวประท้วงทั่วประเทศเมื่อวานนี้เพียง 380,000 คนเท่านั้น
มีรายงานการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลในหลายเมือง ทั้งที่เมืองแรนส์และเมืองน็องต์ ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงที่ขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจ และจุดไฟเผาถังขยะกลางถนน
ส่วนที่กรุงปารีส ตำรวจต้องวางกำลังคุ้มกันอาคารธนาคารกลางฝรั่งเศส และยิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ประท้วง ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนเข้าไปยึดสำนักงานใหญ่ของ LVMH เจ้าของแบรนด์สินค้าหรูอย่าง หลุยส์ วิตตอง ได้ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนถุกตำรวจสลายการชุมนุม มีผู้ถูกจับกุม 47 คน
การชุมนุมประท้วงเพื่อต่อต้านแผนปฏิรูประบบเงินบำนาญของรัฐบาลเมื่อวานนี้ ถือเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของผู้ประท้วงแล้วในการคัดค้านแผนดังกล่าว ที่จะขยายอายุเกษียณจากการทำงานของแรงงานในประเทศ จาก 62 ปี เป็น 64 ปี เนื่องจากที่ผ่านมาสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในวันนี้จะมีคำตัดสินจากองค์คณะศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะพิจารณาว่าเนื้อหาในร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นธรรมหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเห็นสมควร ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นแน่นอน ก็จะเปิดทางให้ประธานาธิบดีมาครงลงนามรับรองเป็นกฎหมายได้ทันที สามารถบังคับใช้ได้ภายในสิ้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย