วอชิงตัน 10 เม.ย.- เจ้าหน้าที่สหรัฐเร่งค้นหาต้นตอที่ทำให้เอกสารลับรั่วไหลถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นเอกสารทางทหารและข่าวกรองที่มีความอ่อนไหวสูง ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่สหรัฐบางคนสันนิษฐานว่าอาจเป็นฝีมือของคนในสหรัฐ
เอกสารเหล่านี้มีหัวข้อกว้างขวางตั้งแต่เรื่องสงครามในยูเครน สถานการณ์ในจีน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เป็นเอกสารรั่วครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง นับจากเว็บไซต์วิกิลีกส์สร้างความสั่นสะเทือนด้วยการปล่อยเอกสาร คลิป และโทรเลขทางการทูตมากกว่า 700,000 ชิ้นเมื่อปี 2556 นายไมเคิล มัลรอย อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐด้านตะวันออกกลางเผยว่า ความสนใจในขณะนี้มุ่งไปที่เป็นการรั่วไหลจากสหรัฐเอง เนื่องจากเอกสารรั่วส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐเท่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า การสอบสวนยังอยู่ในขั้นต้น และไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นฝีมือของกลุ่มสนับสนุนรัสเซีย หรืออาจมีการตกแต่งดัดแปลงหวังทำให้เจ้าหน้าที่สับสนเรื่องต้นตอเอกสาร หรือหวังแพร่กระจายข้อมูลเท็จที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของสหรัฐ
รอยเตอร์เผยว่า ได้เห็นเอกสารที่ประทับตราว่า “ลับ” และ “ลับสุดยอด” แล้วมากกว่า 50 ชิ้นตั้งแต่มีการนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเดือนมีนาคม เริ่มจากแพลตฟอร์มสนทนาดิสคอร์ด (Discord) และกระดานสนทนานิรนามโฟร์แชน (4Chan) เอกสารบางชิ้นโพสต์เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน จนกระทั่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์นำมารายงานเป็นสื่อแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เปิดการสอบสวนเรื่องนี้ในฐานะคดีอาญาแล้ว หลังจากได้รับเรื่องอย่างเป็นทางการจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ขณะที่ประเทศพันธมิตรของสหรัฐที่ถูกพาดพิงถึงในเอกสารรั่วพากันเคลื่อนไหว ยูเครนเผยว่า ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงได้หารือเมื่อวันศุกร์เรื่องหาทางป้องกันเอกสารรั่วไหล หลังจากมีเอกสารรั่วประทับตราว่า “ลับ” ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์แจกแจงรายละเอียดเรื่องระบบป้องกันภัยทางอากาศเอส-300 (S-300) ของยูเครนจะถูกใช้หมดภายในวันที่ 2 พฤษภาคม หากมีการใช้งานในระดับปัจจุบัน ด้านเกาหลีใต้เผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะหารือกับสหรัฐ หลังจากมีเอกสารรั่วแจกแจงรายละเอียดการหารือภายในของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เรื่องสหรัฐกดดันให้เกาหลีใต้จัดส่งอาวุธให้ยูเครน ซึ่งขัดกับนโยบายของเกาหลีใต้ ขณะที่อิสราเอลยืนยันว่า เอกสารรั่วเรื่องหน่วยข่าวกรองมอสซาดของอิสราเอลสนับสนุนให้คนประท้วงต่อต้านแผนปฏิรูประบบตุลาการของนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮู เป็นเรื่องโกหกไร้มูล.-สำนักข่าวไทย