โคลัมโบ 22 มี.ค.- ประธานาธิบดีศรีลังกาเตือนว่า ศรีลังกาจะต้องพบกับความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจมากขึ้นอีกจากการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดอย่างเคร่งครัดเพื่อกอบกู้ฐานะการคลัง หลังจากบรรลุข้อตกลงรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF)
ประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเห แถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า ข้อตกลงกับไอเอ็มเอฟเป็นจุดเริ่มต้นการฟื้นฟูประเทศที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเมื่อปี 2565 อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้เป็นเพียงก้าวแรกของการปฏิรูปโครงสร้างที่จะเป็นการเดินทางที่ยาวนานและยากลำบากมากยิ่งขึ้น ศรีลังกาจะต้องก้าวข้ามด้วยความรอบคอบและกล้าหาญ โดยมีเป้าหมายเดียวคือการกอบกู้เศรษฐกิจประเทศ
ประธานาธิบดีวิกรมสิงเหกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการหลังจากนี้คือ การขึ้นภาษี เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟที่กำหนดให้ต้องลดภาระการชำระหนี้ต่างประเทศลงให้ได้ครึ่งหนึ่งจากปี 2565 ที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) และจะรับภาระหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจสำคัญเพื่อให้เป็นที่สนใจของนักลงทุน ตามที่ไอเอ็มเอฟต้องการให้ศรีลังกาจำหน่ายรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน รวมถึงศรีลังกาแอร์ไลน์ที่เป็นสายการบินแห่งชาติ และออกกฎหมายปราบปรามการทุจริตอย่างเข้มงวด
ด้านสหภาพแรงงานในศรีลังกาคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัดด้วยการนัดหยุดงานในภาคสาธารณสุขและการขนส่งเมื่อสัปดาห์ก่อน และเตือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวต่อไปอีก.-สำนักข่าวไทย