นิวยอร์ก 14 มี.ค. – กลุ่มผู้ถือหุ้นยื่นฟ้องบริษัทแม่ของธนาคารซิลิคอนวัลลีย์แบงก์ หรือเอสวีบี (SVB) และผู้บริหาร 2 คน ของเอสวีบี โดยกล่าวหาว่าปกปิดเรื่องดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นจะทำให้เอสวีบีเสี่ยงถูกลูกค้าแห่ถอนเงินอย่างไร
การฟ้องคดีในนามกลุ่มบุคคลต่อกลุ่มการเงินเอสวีบีหรือเอสวีบีไฟแนนเชียลกรุ๊ป (SVB.O) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเอสวีบี นายเกร็ก เบ็กเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของเอสวีบี และนายแดเนียล เบ็ก ประธานเจ้าหน้าที่การเงินหรือซีเอฟโอ (CFO) มีขึ้นที่ศาลรัฐบาลกลางในเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย คำฟ้องระบุว่า เอสวีบีซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่เปิดเผยให้ผู้ถือหุ้นทราบเรื่องดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นจะสั่นคลอนรูปแบบการทำธุรกิจอย่างไร และจะทำให้เอสวีบีซึ่งมีสตาร์ทอัพเป็นฐานลูกค้าหลักเสียหายมากกว่าธนาคารที่มีฐานลูกค้าอื่นอย่างไร คำฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ไม่ได้ระบุจำนวนให้แก่ผู้ลงทุนในเอสวีบีระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2566
คาดว่าการฟ้องร้องครั้งนี้เป็นการฟ้องร้องคดีแรกนับตั้งแต่เอสวีบีถูกทางการสหรัฐสั่งปิดกิจการและอายัดทรัพย์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม หลังจากลูกค้าพากันแห่ถอนเงิน เนื่องจากธนาคารเปิดเผย 2 วันก่อนหน้านั้นว่า ขาดทุนหลังจากหักภาษีแล้ว 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 62,010 ล้านบาท) และมีแผนจะระดมทุน ธนาคารมีสินทรัพย์ประมาณ 209,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.2 ล้านล้านบาท) และมีเงินฝาก 175,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6 ล้านล้านบาท) ก่อนต้องปิดกิจการ ถือเป็นธนาคารสหรัฐรายใหญ่ที่สุดที่ล้ม หลังจากเกิดวิกฤตการเงินโลกปี 2551.-สำนักข่าวไทย