ลาว 3 พ.ย.-โครงการตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่เพียงมีอยู่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีในลาว ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายที่เสด็จพระราชดำเนินเยือน พระองค์ทรงพลิกผืนดินแห้งแล้ง ให้กลายเป็นแหล่งเพาะปลูก สร้างความอุดมสมบูรณ์ พัฒนาชีวิต ประชาชนและทางการลาวจึงยังรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เสมอ
ปลาตัวเขื่อง ที่ชาวบ้านในชุมชนของลาว จับขึ้นมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยซอน คือ หนึ่งในผลิตผลจากโครงการพระราชดำริศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว ที่เมืองนาซายทอง นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปีที่แล้ว พื้นที่บริเวณนี้แห้งแล้งมาก เมื่อถึงช่วงแล้งก็แล้งจัด ชาวบ้านขาดแคลนน้ำดื่ม-น้ำใช้ แต่นับจากปี 2537 ดินแดงผืนนี้เริ่มมีความอุดมสมบูรณ์ให้เห็น ด้วยพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงแนะนำให้ทางการลาวสร้างอ่างเก็บน้ำ พร้อมทั้งพระราชทานแนวคิดการเกษตรทฤษฎีใหม่แก่เจ้าหน้าที่
“ปลูกข้าวไม่ต้องมี 50 ไร่ มีเพียง 20 ไร่ก็อิ่มแล้ว ทฤษฎีใหม่ 10 ไร่ก็พอ ถ้าทำนาครอบครัวหนึ่ง 5 ไร่พอ ไม่ใส่ปุ๋ยมาก ใส่ปุ๋ยธรรมชาติ”
โครงการศูนย์พัฒนาห้วยซอน-ห้วยซั้ว ในลาว เกิดขึ้นหลังจาก ฯพณฯ นายไกสอน พมวิหาน ประธานประเทศลาวขณะนั้น ประทับใจในโครงการพระราชดำริ ที่ทรงพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยในถิ่นทุรกันดาร จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือ ทุกวันนี้ โครงการศูนย์พัฒนาห้วยซอน-ห้วยซั้ว ถือเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้อันทรงคุณค่าของลาว และทำให้ชาวบ้านกินดีอยู่ดีมากขึ้น
“กว่า 20 กว่าปีมานี้ ลาวมีโครงการตามพระราชดำริกว่า 20 โครงการ ในหลายสาขา ทั้งการศึกษา สาธารณสุข เกษตรกรรม รวมทั้งศาสนา กระจายอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จากเหนือจรดใต้ ถือได้ว่ามีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของ สปป.ลาว”
เป็นที่ประจักษ์ว่า แนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สร้างดอกผลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างมาก ลาวจึงยึดมั่นที่จะสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์สืบไป
“รัฐบาลทางประชาชนลาวจะสานต่อรักษาโครงการพระราชดำริ และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ทั้งต่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งเป็นส่วนสำคัญในการขจัดความยากจนให้กับคนใน สปป.ลาว”
โครงการพระราชดำริที่ลาว ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างไทย-ลาวเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงน้ำพระราชหฤทัยที่แผ่ไปถึงบ้านใกล้เรือนเคียง ช่วยขจัดความยากจน ให้คนพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งล้วนแต่เป็นเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งสิ้น.-สำนักข่าวไทย