โตเกียว 12 มี.ค.- ผลสำรวจพบว่า คนในญี่ปุ่น 1 ใน 4 จะยังคงสวมหน้ากากอนามัยต่อไปเมื่อต้องพบกับคนอื่น แม้ว่าทางการจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมก็ตาม
บริษัทวิจัยแห่งหนึ่งได้สอบถามพนักงานบริษัทจำนวน 561 คน อายุระหว่าง 20 ปีเศษถึง 50 ปีเศษเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ตอบร้อยละ 27.8 ตอบว่า จะสวมหน้ากากอนามัยต่อไปโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ผู้ตอบร้อยละ 66 เผยว่า จะถอดหน้ากากอนามัยต่อเมื่อรับประทานอาหารหรือเมื่อเป็นคนใกล้ชิด และมีผู้ตอบเพียงร้อยละ 5.5 ที่จะไม่สวมหน้ากากอนามัยอีก ต่อข้อถามเรื่องเหตุผลที่ยังจะสวมหน้ากากอนามัยต่อไป แม้ว่าทางการจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมเพื่อให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามปกติหลังจากจำกัดมานาน 3 ปี ผู้ตอบร้อยละ 53.4 ตอบว่า เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ผู้ตอบร้อยละ 50.2 เผยว่า เป็นความเคยชิน และร้อยละ 39.2 ตอบว่า เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคอื่น ๆ นอกจากโควิด
จนถึงขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ร่ม แต่นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป แนะนำให้สวมเมื่ออยู่ในสถานพยาบาล บ้านพักคนชรา รถไฟและรถโดยสารที่แออัด ส่วนร้านอาหารและร้านค้าปลีกส่วนใหญ่จะให้ลูกค้าตัดสินใจเอง ขณะที่พนักงานบริษัทส่วนใหญ่จะยังคงสวมต่อไปเพื่อให้ลูกค้าสบายใจ ญี่ปุ่นแจ้งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศในวันนี้ที่ 13,203 คน ลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับหนึ่งสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย