รัสเซีย 24 ก.พ. – วันนี้เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียได้ยกทัพบุกยูเครน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันยาวนานทั้งด้านการเมืองและวัฒนธรรม โดยยกเหตุผลและความจำเป็นด้านความมั่นคง ผ่านมา 1 ปีแล้วมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น สำนักข่าวไทยประมวลไว้ในรายงานพิเศษจากฝ่ายข่าวต่างประเทศ
วันนี้เมื่อปีที่แล้ว คุณครูหญิงชาวยูเครนตกเป็นเหยื่อสงครามรายแรกๆ ภาพนี้ที่รู้จักกันว่าเป็นภาพใบหน้าแรกของสงครามถูกบันทึกภายนอกบ้านที่เพิ่งถูกยิงถล่มไป กลายเป็นหนึ่งในภาพจำของวันประวัติศาสตร์ หน้าประวัติศาสตร์ที่เธอไม่คาดคิดว่าจะมีวันเกิดขึ้น
ในวันแรกของสงครามเธอพยายามตั้งสติรำพึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ไม่คาดคิดว่าสงครามจะเกิดขึ้นจริงๆ ในชั่วชีวิตนี้ ชาวยูเครนคุ้นชินกับบทกวีเกี่ยวกับสงคราม เธอเองก็เป็นผู้กำกับละคร เป็นครู และ ศึกษาประวัติศาสตร์มา แต่ไม่คาดคิดเลยว่า จะเกิดสงครามขึ้นบนแผ่นดินยูเครน มาในวันนี้ คุณครูต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ในโปแลนด์ บาดแผลบนในหน้าดูลางเลือนไปแล้ว แต่ที่จริงเธอต้องผ่านการผ่าตัดถึง 4 ครั้ง ดวงตาถูกเศษแก้วบาด รวมถึงบาดแผลในใจที่ยากจะเยียวยา ผ่านมาครบขวบปี ชีวิตของเพื่อนร่วมชาติคุณโอเลนา อีกหลายคนไม่โชคดีเช่นเธอ
ในวันนั้น พลันสิ้นเสียงประกาศเคลื่อนพลเข้าบุกยูเครนของนายปูตินไม่นาน เสียงไซเรนก็กระหึ่มก้องในกรุงเคียฟ รุ่งเช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 สงครามครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่สงครามโลกปะทุขึ้นในทวีปยุโรป ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครคาดคิดเช่นกันว่า สงครามจะลากยาวมาเป็นปี
ในช่วงแรกรัสเซียมุ่งโจมตีหลายทิศทาง มุ่งสู่เมืองหลวงหวังยึดแบบสายฟ้าแลบ แต่กำลังต้านทานของยูเครนเกินคาดหมาย จึงต้องถอยร่นไป เหลือไว้เพียงสภาพเมืองต่างๆ ที่กลายเป็นสุสาน
ในระยะที่สอง รัสเซียปรับยุทธศาสตร์ใหม่มุ่งเน้นภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออก และเมืองชายฝั่งทางใต้ ยกระดับการรบเพื่อยึดให้เบ็ดเสร็จและสร้างดินแดนกันชนพ่วงคาบสมุทรไครเมียที่ยึดครองไปก่อนนี้ ช่วงนี้เองที่สมรภูมิเมืองมาริอูโพลเป็นพื้นที่นองเลือดที่สุด เมื่อถูกแรงต้านจากกองกำลังอาซอฟ ที่รัสเซียมองว่าเป็นกลุ่มนีโอนาซี
แต่ช่วงกลางปี รัสเซียมุ่งผนวกดินแดนที่ยึดครองไป ด้วยการจัดประชามติรองรับ นำดินแดนสี่แห่งของยูเครนเข้าเป็นของรัสเซีย แต่แรงต้านของยูเครนยังแข็งแกร่งและโต้กลับยึดคืนได้หลายพื้นที่ นำมาสู่การชะงักงันของทั้งสองฝ่ายมาถึงปัจจุบัน
ระยะต่อมา ช่วงปลายปีที่แล้วถึงปัจจุบันรัสเซียแก้ลำด้วยการปรับยุทธวิธีมุ่งทำลายสาธารณูปโภค ทำไฟฟ้าดับเกือบครึ่งประเทศ ประชาชนกว่า 10 ล้านคนผจญความหนาวเหน็บ
ขวบปีของสงครามความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายยังยากที่จะระบุชัดเป็นตัวเลขที่แท้จริง ต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างไม่ตรงกัน แต่จากการวิเคราะห์ของบุคคลที่สาม เชื่อว่า ทหารยูเครนบาดเจ็บและเสียชีวิตราว 100,000 นาย พลเรือนเป็นเหยื่ออีก 30,000 คน ส่วนรัสเซียมีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตราว 200,000 นาย
ความโหดร้ายของสงครามไม่ได้จำกัดวงแต่ในยูเครน คนทั่วโลกรับแรงกระแทกจากความขัดแย้งไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตั้งแต่ปากท้องของคนจนถึงการเมืองโลก เมื่อทั้งยูเครนและรัสเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกธัญพืช ปุ๋ย และ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรายใหญ่ เมื่อต้องรบพุ่งทำให้ทุกอย่างสะดุด ประเทศยากจนที่ต้องพึ่งสินค้าอาหาร ปัญหายิ่งร้ายแรงจากราคาสินค้า อาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น ทั่วยุโรปที่พึ่งพาพลังานจากรัสเซีย เผชิญความขาดแคลนและกล้ำกลืนราคาพลังงานที่สูงขึ้น ขณะที่ต้องแก้เกมลดพึ่งพารัสเซีย หาแหล่งพลังงานใหม่ ประเทศใกล้และไกลต้องแบกรับภาระผู้ลี้ภัยสงครามหลายล้านคน เพราะสงครามทำให้เกิดวิกฤติคลื่นผู้อพยพที่รุนแรง ภาระด้านมนุษยธรรมในระยะสั้น กำลังขยายตัวเป็นวิกฤติสังคมในประเทศต่างๆ ตามมา
สงครามเกิดขึ้นในยามมหาอำนาจเผชิญหน้ากัน แบ่งโลกเป็นฝ่ายเป็นขั้วมากขึ้น หลายประเทศถูกบีบให้เลือกข้าง หรือไม่ก็ต้องเล่นเกมการทูต สวีเดนและฟินแลนด์ที่เคยมีจุดยืนหนักแน่นกับความเป็นกลางทางการเมือง ต้องหันไปขอร่วมนาโตเพื่อประกันความมั่นคง ส่วนจีนตกเป็นเป้าสายตา ที่มีสหรัฐเป็นศัตรูร่วมกับรัสเซีย ต้องวางจุดยืนให้ชัด ปฏิเสธการลงดาบรัสเซียแล้วหนุนสันติภาพ แต่ก็ยังถูกตั้งคำถามว่ากำลังคิดช่วยรัสเซียด้วยยอาวุธหนักหรือไม่
โลกในยุคสงครามยูเครน เป็นโลกที่หวาดระแวงกันหนักขึ้น โลกที่อันตรายมากขึ้น โลกที่แข่งขันด้านอาวุธยิ่งกว่าเดิม เมื่อ 3 วันก่อนผู้นำรัสเซียเพิ่งประกาศที่จะระงับสนธิสัญญา New Start ที่ทำไว้กับสหรัฐเพื่อจำกัดอาวุธนิวเคลียร์และป้องกันสงครามนิวเคลียร์
ในวันแรกที่ไม่มีใครคิดว่าสงครามจะล่วงเลยมาเป็นแรมปี แต่มาจนถึงนาทีนี้ ทุกคนเห็นตรงกันว่า สงครามจะไม่จบลงง่ายๆ เมื่อต่างฝ่ายทั้งผู้รุกรานและผู้ตั้งรับไม่ลดราวาศอก การสู้รบยิ่งทำให้ความเป็นปฏิปักษ์หนักยิ่งขึ้น
คุณโอเลนา เฝ้าหวังให้ทุกอย่างจบสิ้นลงเสียที อยากคิดไปว่า ไม่มีนายปูตินอีกแล้ว อาจจะถูกยึดอำนาจไป หรือ สงครามยุติลงโดยพลัน แต่เธอก็รู้ว่าเป็นเพียงความฝัน เพราะไม่มีสัญญาณอะไรที่จะมายุติสงครามที่กำลัง ทุกวันนี้ คุณโอเลนา กำลังใช้ความมีชื่อเสียงของเธอช่วยเหลือระดมทุนเพื่อทหารในแนวหน้าและเด็กกำพร้าจากสงคราม หวังว่าสักวันเธอจะกลับไปใช้ชีวิตในบ้านแสนสงบในบ้านเกิดอีกครั้ง .-สำนักข่าวไทย