วอชิงตัน 11 ก.พ. – เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า เครื่องบินขับไล่เอฟ-22 ของสหรัฐยิงตกวัตถุบินได้ไม่ทราบประเภทที่บินสูงเหนือรัฐอะแลสกาของสหรัฐเมื่อวานนี้ หลังจากที่สหรัฐเพิ่งยิงบอลลูนสอดแนมของจีน ที่ลอยอยู่เหนือสหรัฐตกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พลจัตวาแพทริก ไรเดอร์ หัวหน้าโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐใช้ขีปนาวุธไซด์ไวน์เดอร์ ในการยิงยานดังกล่าว ซึ่งมีขนาดเท่ากับรถยนต์คันเล็ก ๆ ในขณะที่นายจอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของวัตถุบินชิ้นนี้และยังไม่ทราบแน่ชัดด้วยว่าเริ่มต้นบินมาจากที่ใด ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นผู้สั่งการให้ยิงวัตถุดดังกล่าว ทั้งกระทรวงกลาโหมและทำเนียบขาวไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุบินนี้ โดยกล่าวแต่เพียงว่า มีขนาดเล็กกว่าบอลลูนของจีนมาก กระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ตรวจพบวัตถุบินนี้เมื่อวันพฤหัสบดี จากเรดาร์ภาคพื้นดิน หลังจากนั้นได้ส่งเครื่องบินเอฟ-35 ขั้นไปสังเกตุการณ์ วัตถุบินอยู่ที่ระดับความสูง 12,190 เมตร มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นอันตรายต่อการการจราจรทางอากาศของพลเรือน วัตถุบินถูกยิงตกนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐอะแลสกา ใกล้กับชายแดนแคนาดา
เมื่อวันที่ 4กุมภาพันธ์ เครื่องบินขับไล่เอฟ-22 ก็ยิงสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐเรียกว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน ตกนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา หลังจากบอลลูนลอยอทั่วสหรัฐและพื้นที่บางส่วนของแคนาดาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ในขณะที่จีนกล่าวว่า บอลลูนดังกล่าวเป็นของพลเรือนและใช้เพื่อการวิจัย.-สำนักข่าวไทย