อังการา 7 ก.พ.- เจ้าหน้าที่กู้ภัยในทูร์เคียหรือตุรกีและซีเรียเร่งค้นหาผู้ที่ยังติดอยู่ใต้ซากอาคาร ท่ามกลางความมืด อากาศหนาวเหน็บ และอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตใน 2 ประเทศรวมกัน 4,890 คนแล้ว
หน่วยงานบรรเทาทุกข์หลายแห่งเล่าถึงสภาพความเสียหายในหลายเมืองว่า อาคารต่าง ๆ พังราบเป็นหน้ากลอง ซ้ำเติมสถานการณ์ทั้ง 2 ประเทศที่เผชิญกับสงคราม เหตุก่อความไม่สงบ วิกฤตผู้ลี้ภัย และโรคอหิวาตกโรคที่เพิ่งระบาดเมื่อไม่นานมานี้ โดยเฉพาะเมืองกาเซียนเท็ป ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อาคารพักอาศัยทั้งหลังจำนวนมากพังเหลือแต่ซากอยู่บนกองหิมะ ผู้รอดชีวิตต้องพักค้างคืนกลางแจ้ง บางคนนอนในรถบัส บางคนใช้แผ่นพลาสติกห่อตัวปกป้องความหนาวเย็น และบางคนเผาซากความเสียหายเพื่อไล่ความหนาว
สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติของตุรกีแจ้งยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 3,381 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเมื่อรวมกับซีเรียอยู่ที่ 4,890 คน ขณะที่องค์การอนามัยโลกประเมินว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงถึง 20,000 คน องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก แสดงความกังวลเรื่องเมืองมรดกโลก 2 แห่งได้รับความเสียหายหนัก ประกอบด้วยเมืองอเลปโป ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย และเมืองดียาร์บากีร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี
เว็บไซต์ของสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติของตุรกีระบุว่า ตุรกีมีคนเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวมากเป็นอันดับ 9 ของโลก และมีคนได้รับความเดือดร้อนจากแผ่นดินไหวมากเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5-6 เฉลี่ยปีละ 1 ครั้ง แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในแต่ละปีคร่าชีวิตคนประมาณ 1,000 คน ทำที่พักอาศัยเสียหายประมาณ 9,000 หลัง แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ในปี 2482 คร่าชีวิตคนไปมากถึง 33,000 คน และแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ในปี 2542 คร่าชีวิตมากกว่า 17,000 คน.-สำนักข่าวไทย