วอชิงตัน 4 ก.พ.- ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐชี้ว่า บอลลูนสอดแนมของจีนที่สหรัฐพบว่าลอยเหนือที่ตั้งทางทหารของสหรัฐอาจใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ที่มีความก้าวหน้า
นายวิลเลียม คิม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องบอลลูนสอดแนมของมาราธอน อินนิชิเอทีฟ (Marathon Initiative) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยในกรุงวอชิงตันเผยว่า บอลลูนเป็นเครื่องมือสังเกตการณ์ที่มีประโยชน์และยากจะยิงตกได้ บอลลูนที่พบเหนือน่านฟ้าสหรัฐดูเผิน ๆ เหมือนบอลลูนตรวจสภาพอากาศทั่วไป แต่มีลักษณะแตกต่างตรงที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และเห็นอุปกรณ์ชัดเจน เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับนำทางและเก็บข้อมูล ทำงานด้วยพลังงานจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ดูเหมือนว่าบอลลูนลูกนี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่กองทัพสหรัฐยังไม่เคยนำมาใช้ เป็นเอไอที่ทำให้บอลลูนสามารถปรับระดับความสูงเพื่อไปในทิศทางที่ต้องการได้เอง เพียงแค่อ่านค่าความเปลี่ยนแปลงของอากาศที่อยู่โดยรอบ และอาจมีการสื่อสารทางวิทยุกับฐานภาคพื้นดินในประเทศต้นทาง
นายคิมสันนิษฐานว่า บอลลูนลูกนี้น่าจะต้องการเก็บข้อมูลด้วยการลอยนอกน่านฟ้าสหรัฐหรือที่ระดับสูงกว่าที่เห็น แต่เกิดเหตุขัดข้อง เพราะปกติแล้วบอลลูนมักลอยที่ระดับความสูง 65,000-100,000 ฟุต (ราว 19,812-30,480 เมตร) เพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับหรือยิงตก แต่บอลลูนลูกนี้ลอยที่ระดับความสูง 46,000 ฟุต (ราว 14,020 เมตร) ถือว่าค่อนข้างต่ำ ส่วนการยิงบอลลูนตกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะก๊าซที่บรรจุอยู่ภายในคือ ฮีเลียม ไม่ใช่ก๊าซที่ระเบิดลุกเป็นไฟเมื่อถูกยิง แต่จะรั่วออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับยกตัวอย่างเหตุการณ์ปี 2541 ที่กองทัพอากาศแคนาดาส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-18 ขึ้นประกบบอลลูนตรวจสภาพอากาศไม่ทราบสัญชาติ แล้วระดมยิงปืนใหญ่ขนาด 20 มิลลิเมตรหลายพันนัด แต่ต้องรอถึง 6 วันกว่าบอลลูนจะตกลงมาในที่สุด.-สำนักข่าวไทย