ปักกิ่ง 17 พ.ค.- สื่อทางการจีนวิจารณ์สหรัฐว่า ขัดขวางความพยายามหยุดยั้งภัยไซเบอร์โลกทำให้มัลแวร์เรียกค่าไถ่กระทบคอมพิวเตอร์กว่า 300,000 เครื่องทั่วโลกในช่วงหลายวันมานี้ เฉพาะจีนมีหน่วยงานถูกกระทบราว 30,000 แห่ง
หนังสือพิมพ์ไชนาเดลีระบุว่า สหรัฐควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะขัดขวางความพยายามหยุดยั้งอาชญากรรมไซเบอร์ จากการสั่งห้ามหัวเว่ย เทคโนโลยี ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของจีนรับงานในสหรัฐทั้งที่ไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนัก แต่กลับปล่อยให้เครื่องมือด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ถูกแฮกเกอร์นำไปพัฒนาเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า จีนจะต้องนำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของตนเองมาใช้แทนต่างชาติโดยเร่งด่วน
ด้านหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีของจีนได้เปรียบเทียบการปล่อย WannaCry ในขณะนี้ว่าเหมือนกับเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Die Hard ภาค4 ที่แฮกเกอร์เข้าควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ของสหรัฐ พร้อมกับเตือนว่าการที่จีนมีบทบาทในเวทีการค้าโลกและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเปิดช่องให้จีนรับความเสี่ยงจากต่างประเทศ
สื่อจีนเขียนถึงเรื่องนี้ในขณะที่ทางการจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ที่มีเนื้อหากว้างขวาง และถูกกลุ่มธุรกิจในสหรัฐวิจารณ์ว่า ใช้ระเบียบเรื่องการจัดเก็บข้อมูลท้องถิ่นและเกณฑ์การเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัดมาบีบการทำงานของบริษัทต่างชาติในจีน.-สำนักข่าวไทย