สหรัฐพักงานตร. 2 นาย ไล่ออกดับเพลิง 3 นายเหตุทำร้ายคนดำตาย

เมมฟิส 31 ม.ค.- ตำรวจเมืองเมมฟิสของสหรัฐสั่งพักงานตำรวจ 2 นาย เป็นตำรวจนายที่ 6 และ 7 ที่เกี่ยวข้องกับเหตุชายผิวดำถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะที่สำนักงานดับเพลิงไล่ออกนักดับเพลิง 3 คนที่ไม่ให้การช่วยเหลือเหยื่ออย่างเหมาะสมเมื่อไปถึงที่เกิด


สำนักงานตำรวจเมมฟิสแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า สำนักงานฯ ได้เริ่มการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายไทเออร์ นิโคลส์ ชายผิวดำวัย 29 ปี เมื่อวันที่ 7 มกราคม และได้ให้ตำรวจ 7 นายพ้นจากหน้าที่ในวันรุ่งขึ้น ด้านโฆษกตำรวจแถลงว่า ตำรวจ 1 ใน 2 นายที่ถูกสั่งพักงานในช่วงที่กำลังรอผลการสอบสวนคือ นายเพรสตัน เฮมฟิลล์ ตำรวจผิวขาวที่เริ่มทำงานในปี 2561 ส่วนตำรวจ 5 นายถูกไล่ออกและตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะเดียวกันสำนักงานดับเพลิงเมมฟิสแถลงว่า ได้ไล่ออกนักดับเพลิง 3 คนที่ไปยังที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้งจากตำรวจ เนื่องจากไม่ประเมินอาการของนายนิโคลส์อย่างเหมาะสม ณ จุดที่เกิดเหตุทำร้าย

จุดไว้อาลัยไทเออร์ นิโคลส์ในเมืองบอสตัน

ครอบครัวของนายนิโคลส์แถลงแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งที่นายเฮมฟิลล์ไม่ถูกไล่ออกและไม่ถูกตั้งข้อหา ทำให้เกิดความกังขาเรื่องตำรวจผิวขาวที่พัวพันกับการทำร้ายอย่างโหดร้ายกลับได้รับความคุ้มครอง ทั้งที่นายเฮมฟิลล์ใช้ปืนไฟฟ้ายิงนายนิโคลส์ตั้งแต่ต้นตามที่ทนายความของครอบครัวระบุ ขณะที่ทนายความของนายเฮมฟิลล์ยืนยันว่า ลูกความไม่ได้ร่วมวงทำร้าย คลิปจากที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 มกราคมเห็นตำรวจ 5 นาย ทั้งหมดเป็นคนผิวดำรุมเตะต่อยนายนิโคลส์ที่คร่ำครวญอย่างเจ็บปวดและร้องเรียกหาแม่ หลังจากถูกตำรวจเรียกให้จอดรถ เขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในอีก 3 วันต่อมา ปลุกกระแสประท้วงทั่วสหรัฐ และจะมีพิธีศพในวันพุธนี้ตามเวลาท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย