ปักกิ่ง 27 ม.ค. – ธุรกิจโรงภาพยนตร์ในจีนได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 มาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา บรรดาแฟนภาพยนตร์กลับไปชมภาพยนตร์ และทำให้ธุรกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ตรุษจีนปีนี้เป็นปีแรกที่รัฐบาลปรับแผนการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 หลังจากใช้มาตรการคุมเข้มตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน ทำให้ประชาชนตอบรับด้วยการเข้าไปชมภาพยนตร์กันในช่วงตรุษจีน หรือเทศกาลวันหยุดช่วงฤดูใบไม้ผลิที่สิ้นสุดในวันนี้ ซึ่งตามปกติแล้วเป็นช่วงเวลาที่ชาวจีนนิยมไปดูหนังกันมากอยู่แล้ว นับจนถึงเวลา 11.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ยอดจำหน่ายบัตรเข้าชมภาพยนตร์อยู่ที่ 117 ล้านใบ ทำให้เกิดรายได้ 6,160 ล้านหยวน หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งยอดรายได้นี้แซงหน้าช่วงตรุษจีนปีที่แล้ว และเป็นสถิติรายได้ช่วงตรุษจีนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในช่วงตรุษจีนปีนี้ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา มีหนังใหม่เข้าฉายทั้งหมด 6 เรื่อง โดยเรื่องที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ “ฟูล ริเวอร์ เรด” (Full River Red) ของผู้กำกับฯ จาง อี้โหมว ที่เป็นผลงานแนวลึกลับปนตลกครั้งแรกของเขา หนังกวาดรายได้ไปทั้งสิ้น 2,340 ล้านหยวน หรือประมาณ 11,300 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38 ของยอดจำหน่ายตั๋วทั้งหมด อันดับ 2 เป็นหนังภาคต่อของผู้กำกับฯ กัว ฟาน เรื่อง “เดอะ แวนเดอริง เอิร์ธ ทู” (The Wandering Earth II) หนังแอ็กชันไซไฟที่มีเนื้อหาเป็นเรื่องราวก่อนหน้าของหนังภาคแรกในปี 2019 เรื่อง “เดอะ แวนเดอริง เอิร์ธ” หรือในชื่อไทยว่า “ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ” ที่กวาดรายได้ไป 1,980 ล้านหยวน หรือประมาณ 9,600 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย