มอนเทอเรย์ พาร์ก 25 ม.ค.- เหตุกราดยิงในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐที่มีชาวเอเชียเป็นผู้ก่อเหตุติดต่อกัน 2 ครั้ง ทำให้ความตระหนกตกใจที่เกิดขึ้นกับชุมชนชาวเอเชียกลายเป็นความเสื่อมศรัทธาในสังคมอเมริกัน
เหตุกราดยิง 11 ศพที่เมืองมอนเทอเรย์ พาร์กเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นไม่ถึง 48 ชั่วโมงเกิดเหตุกราดยิง 7 ศพในเมืองฮาล์ฟมูนเบย์ คนร้ายทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นชายสูงวัยชาวเอเชียวัย 72 ปี และวัย 66 ปี ไวโอแลนซ์ โปรเจกต์ (Violence Project) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยไม่แสวงหากำไรระบุว่า เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในสหรัฐระหว่างปี 2509-2563 ร้อยละ 6.4 เกิดจากคนเชื้อสายเอเชีย ขณะที่ข้อมูลสำมะโนประชากรปี 2563 ระบุว่า ประชากรในสหรัฐร้อยละ 7.2 เป็นชาวเอเชียหรือคนเชื้อสายเอเชีย
เมืองมอนเทอเรย์ พาร์ก มีประชากร 60,000 คน 2 ใน 3 เป็นคนเอเชีย ร้านค้าและธนาคารมีคนพูดภาษาจีนกลางมากกว่าภาษาอังกฤษ ถนนหนทางเต็มไปด้วยป้ายตัวอักษรจีน นักค้าอสังหาริมทรัพย์ชูเมืองนี้ให้เป็นเบเวอร์ลีฮิลล์ของชาวจีน ดึงดูดชาวไต้หวันและชาวฮ่องกงมาอาศัย ตามด้วยชาวจีนแผ่นดินใหญ่ในระยะหลัง
สตรีคนหนึ่งที่ครอบครัวพาย้ายจากเมืองอู่ฮั่นในจีนมาอยู่ในเมืองมอนเทอเรย์ พาร์กตั้งแต่ยังเป็นเด็กในปี 2525 เผยว่า เหตุกราดยิงเป็นเรื่องของสังคมอเมริกัน และไม่เคยเกิดขึ้นในจีน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า ชาวเอเชียในสหรัฐรับความเป็นอเมริกันเข้าไปเต็มตัวแล้ว ผู้คนย้ายมาเมืองนี้เพราะเป็นชุมชนชาวจีน รู้สึกสบายใจและปลอดภัย เธอสูญเสียความรู้สึกเหล่านี้ตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และมองคนในจีนว่า แม้ถูกรัฐบาลปิดกั้น แต่ก็ไม่มีปืน ไม่มียาเสพติด และมีชีวิตที่มีความสุขเหมือนเด็ก ๆ.-สำนักข่าวไทย