ศาลญี่ปุ่นให้ผู้บริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์พ้นผิด

โตเกียว 18 ม.ค.- ศาลญี่ปุ่นมีคำพิพากษายืนในวันนี้ให้อดีตผู้บริหาร 3 คนของบริษัทไฟฟ้าโตเกียวหรือเทปโก (TEPCO) พ้นผิด จากข้อกล่าวหาว่าบกพร่องในการป้องกันภัยพิบัตินิวเคลียร์ปี 2554 ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ


ศาลสูงโตเกียวพิพากษายืนตามที่ศาลแขวงโตเกียวตัดสินเมื่อปี 2562 ว่า อดีตประธานกรรมการเทปโกวัย 82 ปี อดีตรองประธานบริหาร 2 คนวัย 76 ปี และวัย 72 ปี ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดสึนามิขนาดใหญ่ที่ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เสียหาย ซึ่งส่งผลให้แท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วที่มีกากกัมมันตรังสีเกิดการหลอมละลาย ศาลแขวงโตเกียวตัดสินให้ จำเลยทั้ง 3 คนพ้นผิดในคดีที่ถูกฟ้องร้องในปี 2559 ว่า ประมาทในทางวิชาชีพด้วยการไม่มีมาตรการป้องกันสึนามิ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 44 คน และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ดี ศาลแขวงโตเกียวตัดสินเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ให้อดีตผู้บริหารทั้ง 3 คนและอดีตผู้บริหารอีก 1 คน จ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 13.3 ล้านล้านเยน (ราว 3.36 ล้านล้านบาท) จากการที่ไม่สามารถป้องกันวิกฤตนิวเคลียร์

เดิมอัยการตัดสินใจไม่ฟ้องคดีอาญากับอดีตผู้บริหาร 3 คน แต่มีการเรียกร้องให้กลุ่มตัวแทนสาธารณชนดำเนินการยื่นฟ้องแทน โดยมุ่งไต่สวนว่าอดีตคณะผู้บริหารควรคาดการณ์ล่วงหน้าว่า จะเกิดสึนามิขนาดใหญ่และดำเนินมาตรการป้องกัน เนื่องจากมีการคำนวณไว้แล้วว่า อาจเกิดสึนามิสูงถึง 15.7 เมตรถาโถมใส่โรงไฟฟ้า ตามที่รัฐบาลได้ทำการประเมินระยะยาวในปี 2545 เรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว และมีการแจ้งเรื่องนี้ให้แก่เทปโกทราบในปี 2551 ทนายความที่ศาลแต่งตั้งยื่นฟ้องให้ลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี ขณะที่จำเลยทั้งหมดให้การว่าไม่ได้ทำผิด


แผ่นดินไหวขนาด 9 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ทำให้เกิดสึนามิสูงกว่า 10 เมตร น้ำทะเลไหลท่วมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ระบบหล่อเย็นของโรงไฟฟ้าถูกตัดกระแสไฟฟ้า ทำให้แท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วหลอมละลายในเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ถึง 3 จากที่มีทั้งหมด 6 หมายเลข.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก