เม็กซิโกซิตี 11 พ.ค. – เม็กซิโกเผยว่า หากสหรัฐยกเลิกความตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟต้า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ โดยภาคการส่งออกของสหรัฐจะได้รับความเสียหายหนัก ทำให้ประชาชนชาวอเมริกันเสี่ยงว่างงาน และผู้คนบริเวณพรมแดนได้รับผลกระทบ
เม็กซิโกระบุว่า หากไม่มีข้อตกลงการค้านาฟต้า อัตราภาษีอากรขาออกสำหรับการส่งออกสินค้าจากเม็กซิโกไปยังสหรัฐจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของภาษีอากรขาออกเฉลี่ยของสหรัฐในการส่งออกสินค้าจากสหรัฐมายังตลาดเม็กซิโก ภายใต้ข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก หรือ ดับเบิลยูทีโอ อีกทั้ง การส่งออกของเม็กซิโกยังสำคัญต่อภาคการผลิตของสหรัฐ เพราะราวร้อยละ 75 ของสินค้าส่งออกทั้งหมดถูกใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ ภายในประเทศ
นายเคนเนธ สมิธ ผู้อำนวยการสำนักงานด้านการค้าและนาฟต้าของสถานทูตเม็กซิโกประจำกรุงวอชิงตันเผยแพร่เอกสารระบุว่า การบูรณาการระหว่าง 2 ประเทศทำให้เม็กซิโกมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างมากในฐานะคู่ค้าสำหรับภาคการผลิต ดังนั้น การทำงานร่วมกันจึงจะสามารถทำให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันในตลาดโลกได้
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐไม่ได้ประโยชน์จากการขาดดุลทางการค้าให้แก่เม็กซิโก และว่า สิ่งนี้คงดีต่อชาวอเมริกันมากกว่าที่ทั้ง 2 ประเทศไม่ต้องทำการค้าระหว่างกันไปเลย เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐขาดดุลการค้ากับเม็กซิโกเป็นจำนวน 63,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) ทำให้ทรัมป์ลงนามคำสั่งให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าว แต่เม็กซิโกโต้ว่า การขาดดุลการค้าของสหรัฐเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงค่าเงินเปโซอ่อนค่า หลังเกิดความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ส่วนผลกระทบต่อการจ้างงานในภาคการผลิตเป็นผลมาจากที่จีนเข้าร่วมเป็นสมาชิกดับเบิลยูทีโอเมื่อปี 2544.- สำนักข่าวไทย