เคียฟ 20 ธ.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่าสถานการณ์ใน 4 แคว้นของยูเครนที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอยู่ในขั้นยากลำบากอย่างยิ่ง พร้อมสั่งการให้หน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย หรือเอฟเอสบี เพิ่มการเฝ้าระวังเพื่อรักษาพรมแดนและรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหม่
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวในวันเฉลิมฉลองความมั่นคงของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ว่า สถานการณ์ใน 4 แคว้น ได้แก่ สาธารณรัฐโดเนตสก์ สาธารณรัฐลูฮันสก์ แคว้นเคอร์ซอน และแคว้นซาปอริชเชีย ที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในเดือนกันยายนอยู่ในขั้นยากลำบากอย่างยิ่ง พร้อมทั้งสั่งการให้เอฟเอสบีเพิ่มการเฝ้าระวังในการปกป้องชุมชนรัสเซียและพรมแดนของประเทศ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามฉุกเฉินครั้งใหม่จากต่างชาติและกบฏในประเทศ
คำสั่งดังกล่าวของประธานาธิบดีปูตินมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลยูเครนกำลังเร่งขอรับอาวุธเพิ่มจากชาติตะวันตก หลังรัสเซียส่งฝูงโดรน ‘กามิกาเซ่’ ซึ่งเป็นโดรนโจมตีทางอากาศแบบพลีชีพไร้คนขับ โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนหลายครั้งเมื่อช่วงเช้ามืดวันจันทร์ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แถลงเมื่อช่วงค่ำวันเดียวกันว่า ยูเครนกำลังต้องการอาวุธ ปืนใหญ่ ระบบป้องกันแบบใหม่ และทุกสิ่งทุกอย่างที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการทหาร เพื่อจบสิ้นสงครามในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว
ก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพยูเครนเผยว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถยิงสกัดฝูงโดรน 23 ลำ จากทั้งหมด 28 ลำ ส่วนใหญ่อยู่เหนือน่านฟ้าในกรุงเคียฟ นับเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งที่ 3 ของรัสเซียในรอบ 6 วัน โดยที่รัสเซียมุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดไฟดับหลายครั้ง ท่ามกลางฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย