โซล 9 ธ.ค. – คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้ที่ผละงานมาชุมนุมประท้วงเรื่องโครงการค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาล ลงมติยุติการชุมนุมที่กินเวลายาวนานหลายสัปดาห์ จนทำให้ห่วงโซ่อุปทานและภาคธุรกิจของเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
สหภาพคนขับรถบรรทุกในเกาหลีใต้ (Cargo Truckers Solidarity Union) ซึ่งมีสมาชิกราว 25,000 คน ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า สมาชิกกว่าร้อยละ 60 ของสหภาพฯ ลงมติให้ยุติการชุมนุมประท้วงรัฐบาลเกาหลีใต้เรื่องโครงการค่าจ้างขั้นต่ำ และกลับไปทำงานตามปกติ ขณะที่กระทรวงการค้าของเกาหลีใต้ระบุว่า คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้ได้นัดผละงานมารวมตัวชุมนุมประท้วงตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. จนทำให้การจัดส่งสินค้าประสบปัญหาล่าช้าและเกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว 3.5 ล้านล้านวอน (ราว 9.21 ล้านล้านบาท) ในช่วง 12 วันแรกของการประท้วง ด้านประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ กล่าวตำหนิเหตุประท้วงดังกล่าวว่าเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ส่วนรัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีให้คนขับรถบรรทุกในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและปิโตรเคมีกลับไปทำงาน มิเช่นนั้นอาจถูกลงโทษจำคุกหรือปรับเงิน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้ได้ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลโครงการค่าจ้างขั้นต่ำเป็นโครงการถาวร จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดโครงการในปีนี้ ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้เผยในเดือนพฤศจิกายนว่า จะขยายโครงการดังกล่าวออกไปอีก 3 ปี แต่คนขับรถบรรทุกแย้งว่า หากรัฐบาลไม่ยอมให้โครงการค่าจ้างขั้นต่ำเป็นโครงการถาวร ก็จะทำให้มีคนขับรถบรรทุกอีกหลายรายที่เสี่ยงต่ออันตรายและการทำงานหนัก.-สำนักข่าวไทย