ปักกิ่ง 11 พ.ย. – เจ้าหน้าที่จีนเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 พร้อมกับใช้มาตรการควบคุมอื่น ๆ เพื่อพยายามหยุดยั้งการระบาดแบบกลุ่มก้อนขยายวงกว้างออกไปในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสพุ่งสูงสุอีกครั้งนับตั้งแต่เกิดการระบาดจนต้องล็อกดาวน์ที่นครเซี่ยงไฮ้ โดยมีกรุงปักกิ่งและนครเจิ้งโจวมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงเป็นสถิติใหม่
จีนรายงานในวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10,535 ราย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อนครเซี่ยงไฮ้ เมืองศูนย์กลางด้านธุรกิจของจีน กำลังเผชิญกับการระบาดที่รุนแรกมากที่สุด การที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีนที่เพิ่มมากขึ้น แม้จะถือว่าเป็นจำนวนเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานของทั่วโลกและเพื่อพิจารณาจากจำนวนประชากรจีนที่มีถึง 1,400 ล้านคน แต่ก็ทำให้ผู้นำระดับสูงของจีนยืนยันการใช้ยุทธศาสตร์ทำให้ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ต่อไป ซึ่งเป็นนโยบายที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า ข่วยรักษาชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงวัย ที่เมืองกว่างโจว ทางใต้ของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิดในขณะนี้ รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันพฤหัสบดีที่ 2,824 ราย นับเป็นวันที่ 4 ที่มีผู้ติดเขื้อเกิน 2,000 ราย
เขตไห่จู เป็นจุดที่มีการติดเชื้อมากที่สุด ซึ่งในวันนี้มีการประกาศล็อกดาวน์ไปจนถึงวันอาทิตย์ หลังจากใช้มาตรการคุมเข้มอย่างกว้างขวางมาเป็นเวลาหลายวัน ทางการเขตไห่จู ประกาศให้ทุกคนอยู่แต่ภายในบ้าน จะอนุญาตให้สมาชิก 1 คน ของแต่ละครัวเรือนออกมาจับจ่ายซื้อของใช้จำเป็นตามตารางที่กำหนดไว้เท่านั้น ระบบขนส่งสาธารณะในเขตนี้ที่มีประชากร 1.8 ล้านคน ระงับบริการทั้งหมด และบังคับตรวจหาเชื้อไวรัสสมาชิกทุกคนในครัวเรือน ในขณะเดียวกัน เมืองใหญ่ ๆ อื่น ๆ เช่นกรุงปักกิ่ง เจิ้งโจวและฉงชิ่ง ก็เพิ่มมาตรการคุมเข้มในสัปดาห์นี้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย