รีโอเดจาเนโร 29 เม.ย.- ตำรวจบราซิลใช้แก๊สน้ำตาสลายผู้ประท้วงที่ก่อเหตุจลาจล หลังการประท้วงใหญ่ต่อต้านมาตรการประหยัดของรัฐบาลกลายเป็นความรุนแรงทั้งที่เริ่มต้นด้วยความสงบ
สหภาพแรงงานและกลุ่มฝ่ายซ้ายชักชวนคนผละงานทั่วประเทศเพื่อประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล โดยเฉพาะการลดเงินบำนาญ รถไฟฟ้าตามเมืองใหญ่อย่างนครเซาเปาโล กรุงบราซิเลีย และเมืองเบโลโอรีซอนซีงดให้บริการ ขณะที่เมืองกูรีตีบาและเมืองเรซีฟี ไม่มีรถโดยสารสาธารณะแล่นแม้แต่คันเดียว ธนาคาร โรงเรียน และไปรษณีย์ปิดทำการ เที่ยวบินล่าช้าและยกเลิกจำนวนมาก สหภาพแรงงานอ้างว่ามีสมาชิกเข้าร่วมการผละงานทั่วประเทศมากถึง 40 ล้านคน การประท้วงอย่างสงบกลายเป็นเหตุรุนแรงในช่วงเย็นที่นครรีโอเดจาเนโรเมื่อผู้ประท้วงกลุ่มเล็ก ๆ พากันทุบทำลายหน้าต่างธนาคาร ตั้งสิ่งกีดขวางแล้วจุดไฟเผา มีรถโดยสารถูกเผาอย่างน้อย 8 คัน ทำให้ตำรวจต้องใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตา ส่วนที่นครเซาเปาโล กลุ่มผู้ประท้วงพยายามเคลื่อนขบวนไปยังที่พักส่วนตัวของประธานาธิบดีมีเชล เตเมร์ ทำให้ปะทะกับตำรวจที่พยายามสกัดด้วยแก๊สน้ำตาและระเบิดแสง
การผละงานและประท้วงมีขึ้นหลังจากรัฐบาลบราซิลแจ้งตัวเลขคนว่างงานว่า แตะระดับสูงสุดที่ร้อยละ 13.7 หรือกว่า 14 ล้านคน และจำเป็นต้องปกป้องเศรษฐกิจที่ถดถอยหนักมานานกว่า 2 ปี ประธานาธิบดีเตเมร์กล่าวว่า เศรษฐกิจจะพังทลายหากไม่เข้มงวดการคลังอย่างเคร่งครัด โดยได้ขยายอายุเกษียณจาก 60 ปีเป็น 65 ปีสำหรับผู้ชาย และจาก 55 ปีเป็น 62 ปีสำหรับผู้หญิงเพื่อลดงบการจ่ายเงินบำนาญ รวมทั้งออกกฎหมายระงับการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายเป็นเวลา 20 ปี.-สำนักข่าวไทย