ลอนดอน 13 ธ.ค. – องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอแสดงความกังวลเรื่องเงินทุนขาดแคลน ส่งผลกระทบต่อความพยายามในการควบคุมโรคมาลาเรียระบาด โดยเมื่อปีที่แล้วทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้มากถึง 429,000 คน
ดับเบิลยูเอชโอเตือนว่า ปริมาณเงินทุนที่ใช้ในการควบคุมโรคมาลาเรียระบาดกลับมาเป็นปัญหาใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่เคยเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงปี 2543-2553 เพราะเมื่อปีที่แล้วสามารถระดมทุนได้ทั้งหมด 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 103,180 ล้านบาท) หรือเพียงร้อยละ 45 ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 6,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 227,720 ล้านบาท) ภายในปี 2563 นอกจากนี้ปัญหาเชื้อโรคดื้อยาและยุงที่เป็นพาหะนำโรคมาลาเรียดื้อยาฆ่าแมลงก็กำลังเป็นเรื่องท้าทาย
ดร.เปโดร อลอนโซ ผู้อำนวยการโครงการมาลาเรียของดับเบิลยูเอชโอยอมรับว่า โลกยังคงเผชิญกับอุปสรรคในขยายโครงการให้ครอบคลุมเพื่อเอาชนะโรคมาลาเรีย แม้ว่ามีความก้าวหน้าในการต่อสู้กับโรคนี้ โดยในช่วงปี 2553-2558 จำนวนผู้ป่วยโรคมาลาเรียทั่วโลกลดลงร้อยละ 21 และอัตราผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 29 แต่เมื่อปีที่แล้วจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังสูงถึง 212 ล้านคนและเสียชีวิตทั้งสิ้น 429,000 คน ขณะที่ประชากรร้อยละ 43 ในประเทศแถบแอฟริกาใต้ทะเลทรายซาฮารายังไม่มีมุ้งเคลือบยากันยุงและการพ่นสเปรย์กำจัดยุง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดของโรคมาลาเรียในแถบแอฟริกาใต้ทะเลทรายซาฮารามีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น โดยนายเรย์ แชมเบอร์ส ทูตพิเศษด้านโรคมาลาเรียของเลขาธิการสหประชาชาติเผยว่า อัตราการเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบที่ติดเชื้อมาลาเรียในพื้นที่ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมีการมอบมุ้งเคลือบยากันยุงเกือบ 500 ล้านหลังตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย