โคลัมโบ 22 ก.ย. – อัตราเงินเฟ้อศรีลังกาพุ่งสูงถึงร้อยละ 70.2 ในเดือนสิงหาคม ในขณะที่ศรีลังกายังคงรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในรอบกว่า 70 ปี
ข้อมูลของทางการศรีลังการะบุว่า ศรีลังกามีอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึงร้อยละ 70.2 ในเดือนสิงหาคม และราคาอาหารก็พุ่งสูงถึงร้อยละ 84.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะนี้ ศรีลังกายังคงไม่สามารถนำเข้าสินค้าจำเป็นจากต่างประเทศได้ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ปุ๋ย และยารักษาโรค เนื่องจากเผชิญกับวิกฤตทางการเงินและการเมืองครั้งใหญ่ในปีนี้ รวมถึงปัญหาขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางของศรีลังกาเผยในเดือนสิงหาคมว่า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศชะลอการขยายตัว หลังจากเงินเฟ้อทำสถิติสูงสุดถึงร้อยละ 70
บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ศรีลังกาพึ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นแหล่งที่มาของเงินตราต่างประเทศ เช่น สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ อย่างไรก็ดี การระบาดของโรคโควิดทำให้หลายประเทศต้องใช้มาตรการปิดพรมแดนเพื่อควบคุมการระบาดจนทำให้เศรษฐกิจของศรีลังกาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ศรีลังกา ซึ่งมีประชากร 22 ล้านคน ยังต้องเผชิญกับเหตุวุ่นวายทางการเมืองในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จนทำให้อดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ของศรีลังกา หลบหนีออกนอกประเทศและประกาศลาออกจากตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุประท้วงรุนแรงของผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนบนท้องถนนเพื่อประท้วงเรื่องราคาอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ ชาวศรีลังกาส่วนใหญ่กล่าวโทษรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีราชปักษาว่าบริหารงานผิดพลาดในการรับมือกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ . -สำนักข่าวไทย