ไหหลำจะห้ามขายรถใช้น้ำมันภายในปี 2573

ไหโข่ว 24 ส.ค.- เกาะไหหลำของจีนจะห้ามจำหน่ายรถที่ใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลภายในปี 2573 เพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซที่ทำให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง นับเป็นมณฑลแรกของจีนที่ออกมาตรการนี้


ไหหลำประกาศในแผนปฏิบัติตามการปล่อยคาร์บอนให้ถึงค่าสูงสุดแล้วค่อย ๆ ลดลง (Carbon Peak Implementation Plan) ว่า จะห้ามจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลภายในปี 2573 และจะส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยมาตรการลดหย่อนภาษี และขยายจำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยตั้งเป้าจะมีรถไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 45 ของจำนวนรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573 และจะกำหนดเขตปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ที่ห้ามรถยนต์ใช้น้ำมันแล่นผ่าน

ทางการไหหลำประกาศเรื่องส่งเสริมใช้รถยนต์ไฟฟ้าในขณะที่จีนกำลังเผชิญกับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดและแห้งแล้งที่สุดในรอบหลายทศวรรษ พืชผลแห้งตาย น้ำในแม่น้ำและในเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเหือดแห้ง รัฐมนตรีช่วยอุตสาหกรรมจีนเคยกล่าวไว้เมื่อเดือนกันยายน 2560 ว่า รัฐบาลกำลังจัดทำแผนการหยุดผลิตและจำหน่ายรถใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดจนถึงขณะนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนส่งเสริมให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะตามเมืองต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยหมอกควันพิษ และเพื่อเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า โดยเมื่อปีที่แล้วจีนมียอดจำหน่ายรถไฟฟ้ามากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดจำหน่ายทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]