นายกฯ สั่งรับมือ “พายุมู่หลาน”

ทำเนียบ 10 ส.ค.-นายกฯ กำชับหน่วยงานดูแลให้ความช่วยเหลือและบริหารจัดการน้ำเตรียมความพร้อม หลังกรมอุตุฯ ประกาศเตือนดีเปรสชัน “มู่หลาน” ทำให้ภาคเหนือ อีสาน และตะวันออกมีฝนตกหนัก 11-13 ส.ค.นี้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้รายงานงานดำเนินงานให้รับทราบโดยต่อเนื่องทั้งส่วนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงคมนาคม


“นายกรัฐมนตรีได้กำชับทุกหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องการดูแลให้ความช่วยเหลือให้เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์และกำลังคนให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา ขณะที่หน่วยงานที่ดูแลในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ การพร่องน้ำจากแหล่งเก็บน้ำทั้งเขื่อน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขอให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังพิจารณาควบคู่ทั้งความมั่นคงของแหล่งเก็บกักน้ำ ความปลอดภัยทรัพย์สินบ้านเรือน และผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกของประชาชน เนื่องจากยังเหลือฤดูฝนอยู่อีกหลายเดือนและทางกรมอุตุนิยมวิทยายังได้ออกคำเตือนการเกิดพายุและปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้นอยู่เป็นระยะ” รองโฆษกรัฐบาล กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุโซนร้อนมู่หลาน ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 10 ส.ค. 2565 เตือนผลกระทบจากพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนที่ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อนมู่หลาน ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 11 ส.ค. ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 11-13 ส.ค. 2565 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในประเทศไทย บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เตือนให้ประชาชนทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมและติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด


“เนื่องจากประเทศไทยจะยังอยู่ในฤดูฝนและกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนการเกิดพายุอยู่เป็นระยะ นายกรัฐมนตรีห่วงใยผลกระทบที่จะเกิดต่อประชาชน ทั้งอันตรายต่อชีวิตทรัพย์สินและต่อพื้นที่การเพาะปลูก จึงได้กำชับขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประสานการทำงานเพื่อให้สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพลดผลกระทบและเกิดความเสียหายน้อยที่สุด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง