กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – คณบดีคณะแพทย์ จุฬาฯ เล็งหารือมหาวิทยาลัย หลัง “อ.เจษฎา” โพสต์ซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ ไม่ระบุแหล่งที่มาใช้กับญาติ จนเกิดกระแสซื้อยาเป็นของฝากจากประเทศเพื่อนบ้าน ย้ำการใช้ยาต้องมีข้อบ่งชี้ แนะคนทั่วไปไม่ควรเอาแบบอย่างเพราะเป็นความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่ความเห็นทางฐานะแพทย์
รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในฐานะ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวถึงกรณี รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ โพสต์ภาพยาโมลนูพิราเวียร์ ระบุมีการสั่งซื้อมาใช้ในครอบครัว จนเกิดกระแสการซื้อยามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ว่า เรื่องการใช้ยาต้านไวรัส ยังคงยืนยันต้องทำข้อบ่งชี้ เป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์ ยาไม่ได้มีเพียงพอกับทุกคน และทุกคนก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ยาเหมือนกันหมดทุกคน การใช้ยาโดยเฉพาะยาต้านไวรัสควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพื่อไม่ได้เกิดปัญหาหรือผลกระทบจากยาภายหลัง การใช้ยาเกินจำเป็นนอกจากเกิดผลกระทบกับร่างกายแล้ว ยังเท่ากับเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาด้วย กรณีการซื้อยามาใช้เองของอาจารย์ดังกล่าว โดยมีการระบุว่า คนในครอบครัวไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 608 แต่ก็ต้องการให้คนในครอบครัวได้รับยานั้นไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง เพราะเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้เป็นแพทย์ หรือมีความรู้เรื่องยา การเขียนข้อความต่าง ๆ เป็นการโพสต์แสดงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ความคิดเห็นของแพทย์ ดังนั้นประชาชนควรพิจารณาและเลือกเชื่อถือข้อมูลจากแพทย์เท่านั้น โอกาสการดื้อยามีเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ
รศ.นพ.ฉันชาย ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการติดตามมอนิเตอร์ความคิดเห็นของ รศ.ดร.เจษฎา ทางเฟซบุ๊กมาโดยตลอด การโพสต์ข้อมูลต่าง ๆ โพสต์แสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัว ไม่ได้มีการอ้างอิงตามวิชาการ ดังนั้นก็ไม่ควรนำมาเชื่อถือ ส่วนเรื่องกรณีนี้ทำให้มีการนำไปเป็นแบบอย่างและซื้อยาจากประเทศเพื่อนบ้านมาใช้หรือทำให้เกิดกระแสการหาซื้อยาในโลกออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ก็จะมีการนำเรื่องนี้หารืออีกครั้งในจุฬาลงกรณ์
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 1 ส.ค.) รศ.ดร เจษฎา ได้ลบข้อความที่โพสต์ดังกล่าวออกแล้ว และยืนยันเจตนากับทาง อย.ว่าไม่ได้ต้องการโฆษณายา. -สำนักข่าวไทย