ผบช.ก. สั่งกองปราบ ไขปม “บิ๊ก กุมารขาว” ตายปริศนา

กทม. 10 ก.ค.-ผบช.ก. รับการตายปริศนาของ “บิ๊ก กุมารขาว” ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียิงรถนายก อบต.บางสมบูรณ์ มีผลกระทบทางคดีอยู่บ้าง สั่งกองปราบพิสูจน์ให้แน่ชัดว่า เป็นการฆ่าตัวตาย หรือว่าฆาตกรรม

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยว่ากรณีการเสียชีวิตของนายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ ฉายา “บิ๊ก กุมารขาว” อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียิงรถคณะ นายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 14 ก.พ.65 ซึ่งพบ “บิ๊ก กุมารขาว” เสียชีวิตลักษณะผูกคอกับต้นไม้ ภายในรีสอร์ต เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ถือว่ามีผลกระทบทางคดีอยู่บ้าง เพราะเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในส่วนของการขยายผลหาความเชื่อมโยงถึงตัวผู้จ้างวาน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงแน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกอง 2 และ กอง 5 ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่า เป็นการฆ่าตัวตาย หรือว่าฆาตกรรมอำพรางปิดปากทางคดีหรือไม่


ขณะที่ นายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุส่วนหนึ่งว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรผมยังไม่ทราบ แต่หากเป็นจริงตามแหล่งข้อมูลที่ส่งมา หลักฐานชิ้นสำคัญได้ถูกทำลายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางหรืออัตวินิบาตกรรม ผมขออโหสิกรรมให้

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 14 ก.พ.65 บริเวณถนนปากท่อบางปรัง-เตยน้อย ม.2 ต.ศรีจุฬา อ.เมืองนครนายก เมื่อกลุ่มคนร้ายตามประกบยิงรถคณะของนายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก เป็นเหตุให้คนขับรถ และรองนายก อบต. ที่นั่งมาในรถเสียชีวิต ส่วนนายญาณกรได้รับบาดเจ็บ โดยครอบครัวผู้เสียชีวิต มั่นใจสาเหตุเกิดจากปมขัดแย้งทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้ามที่มีอยู่เพียงกลุ่มเดียว โดยหลังเกิดเหตุ มีการโอนคดีมาให้กองปราบฯ ดำเนินการ เนื่องจากญาติผู้ตายมีการร้องขอความเป็นธรรม และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการเมืองท้องถิ่น กระทั่งตำรวจกองปราบรวบรวมหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ นายภูริวัฒ หรือ “อ๊อด” หรือ “กุมารดำ” (จับกุมแล้ว) นายธวัชชัย หรือ “วัช” (จับกุมแล้ว) นายนพดล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก หรือ ส.จ.เอี้ยง (จับแล้ว) และ นายรัฐพล หรือ “บิ๊ก กุมารขาว” มือปืนที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี และมาพบว่า ผูกคอเสียชีวิตปริศนา เมื่อคืนที่ผ่านมา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีการเสียชีวิตของ “กุมารขาว” พบว่ามีพิรุธหลายอย่าง เช่น จุดที่เกิดเหตุพบเก้าอี้ที่คาดว่าผู้ตายใช้ยืนเพื่ออาจขึ้นไปผูกคอกับต้นไม้พบอยู่คนละจุด คนละด้านกับสภาพศพ ซึ่งความเป็นจริงน่าจะอยู่ในทิศทางเดียวกัน อีกข้อสงสัยคือ ก่อนเกิดเหตุที่รีสอร์ตแห่งนี้เกิดไฟดับ เมื่อช่างไฟมาซ่อมจึงพบว่ามีการผูกคอเสียชีวิต และรีสอร์ตดังกล่าวอยู่ห่างไกลจากชุมชน ไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าพัก เมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้น ผู้ตายเดินเข้ามาขอเช่าห้องพักคนเดียว โดยเข้าออกถึง 3 ครั้ง ก่อนพบว่าชีวิตดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

South Korea's Yoon records speech before detained

ปธน.เกาหลีใต้เผยยอมมอบตัวเลี่ยงเหตุนองเลือด

ประธานาธิบดียุน ซ็อก ยอล ของเกาหลีใต้ เผยก่อนถูกควบคุมตัวในเช้าวันนี้ว่า ตัดสินใจไปให้ปากคำกับคณะเจ้าหน้าที่สอบสวน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุนองเลือดระหว่างเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกับหน่วยอารักขาของเขา

ซากุระเมืองไทย

นักท่องเที่ยวประทับใจ “ซากุระเมืองไทย” บานสะพรั่ง

นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวเย็นที่บ้านปางขอน เชียงราย ชมดอกซากุระเมืองไทย หรือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม

อุตุฯ เผยเหนืออากาศหนาว-ใต้ตอนล่างฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีอากาศหนาว ส่วนภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม-ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่