ทำเนียบ 26 มิ.ย. – โฆษกรัฐบาล ย้ำอย่าเชื่อเฟคนิวส์ ระบบเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤติ หวังดิสเครดิตลดความน่าเชื่อถือรัฐบาล เผยที่ประชุม IMF ทบทวนภาวะเศรษฐกิจของไทยประจำปี 2565 ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยรายงานธนาคารโลก (World Bank) ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ธนาคารโลกได้ประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ แต่ไม่มีการประเมินว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤติ โดยได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.9 ต่ำกว่าระดับคาดการณ์เมื่อเดือน มกราคม 2565 ที่คาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.1 พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเติบโตที่ร้อยละ 3.0 ในปี 2566 และคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2565 โตที่ร้อยละ 2.9 จากที่คาดการณ์เมื่อเดือนมกราคม 2565 เติบโตที่ ร้อยละ 3.9 และคาดการณ์การเติบโตในปี 2566 ที่ร้อยละ 4.3 ซึ่งการปรับลดคาดการณ์ของปี 2565 ดังกล่าว เกิดจากสงครามในยูเครนส่งผลกระทบต่อไทยและประเทศส่วนใหญ่ผ่านผลกระทบต่อการค้าโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งกดดันให้อัตราเงินเฟ้อให้สูง
ทั้งนี้ รายงานของธนาคารโลกได้คาดการณ์เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Markets and Developing : EMDs) ว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 3.4 ลดลงจากร้อยละ 6.6 เมื่อปีก่อน รวมทั้งได้คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียงร้อยละ 2.5 ในปีนี้ ลดลงจากระดับร้อยละ 5.7 เมื่อปีก่อนหน้า คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร จะเติบโตที่ร้อยละ 2.5 ในปีนี้ เทียบกับระดับการเติบโตที่ร้อยละ 5.4 ในปีก่อน เช่นเดียวกับเศรษฐกิจจีน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.3 ในปีนี้ ลดลงจากระดับร้อยละ 8.1 เมื่อปีก่อนหน้า ซึ่งเห็นได้ว่าทุกประเทศได้รับผลกระทบจากความท้าทายทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม การประเมินเศรษฐกิจไทยของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ได้ประชุมทบทวนภาวะเศรษฐกิจของไทยประจำปี 2565 สรุปได้ว่า เศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้รับการสนับสนุนจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ และแผนการเร่งฉีดวัคซีน คาดการณ์ว่า GDP ของประเทศไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3 ในปี 2565 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ และจะขยายตัวเร่งขึ้นสู่ร้อยละ 4.3 ในปี 2566
IMF เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายของรัฐบาลไทย ที่ลดการอุดหนุนราคาพลังงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเห็นว่าการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและ ICT จะเป็นส่วนสำคัญในการได้รับผลประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเศรษฐกิจสีเขียว และดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และปรับปรุงผลลัพธ์ทางสังคม ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาตลอด
“ขอประชาชนอย่าเชื่อข่าวปลอม เฟคนิวส์ ยืนยันธนาคารโลกไม่ได้มีการประเมินระบบเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤตินั้น ซึ่งถือเป็นปล่อยข่าวเท็จและบิดเบือน เพื่อหวังดิสเครดิตลดความน่าเชื่อถือรัฐบาล ขอประชาชนให้รับข่าวสารจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ และฝากเตือนไปถึงผู้ไม่ประสงค์ดี หยุดกระทำการดังกล่าว เพราะท่านกำลังทำลายความเชื่อมั่นประเทศชาติ” นายธนกร กล่าว .-สำนักข่าวไทย