กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – “ทนายเดชา” เผย “แม่แตงโม” ไม่ยื่นฟ้องคดีฆาตกรรมเพราะไม่มั่นใจในหลักฐาน หากแม่ต้องการให้กลับไปเป็นทนายอีกติดต่อมาได้เสมอ ส่วนกรณียื่นตรวจสอบ ส.ส.เต้ คาดประมาณ 1-2 เดือน จะชี้มูลความผิดได้
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยถึงกรณีนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม จะไม่ยื่นฟ้องคดีฆาตกรรมแล้ว เพราะไม่มั่นใจในพยานหลักฐาน กลัวจะถูกฟ้องกลับ ว่าตนเคารพการตัดสินใจของคุณแม่ เท่าที่ทราบคุณแม่น่าจะได้ไปสอบถามความเห็นกับนักกฎหมายที่เป็นกลาง ที่ไม่ใช่นักกฎหมายชุดปัจจุบัน แล้วทราบว่าการฟ้องต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอ เมื่อคุณแม่รู้ว่ามีความเสี่ยงต่อกฎหมายจึงเปลี่ยนใจ
ทั้งนี้ คุณแม่ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาหาตน แต่หากวันหนึ่งคุณแม่คิดถึงสามารถติดต่อมาได้ ส่วนตัวไม่ได้มีความขัดแย้งกับคุณแม่ แม้ว่าคุณแม่จะให้สัมภาษณ์ถึงตนบ่อยครั้ง ตนก็ไม่โกรธ เพราะเข้าใจว่าแม่ต้องการหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว ส่วนตนจะกลับไปเป็นทนายความให้คุณแม่อีกครั้งหนึ่งหรือไม่ คงจะไม่ไปเสนอตัว แต่ถ้าคุณแม่เห็นว่าตนยังมีประโยชน์ก็ติดต่อกลับมาได้
ส่วนตัวยังยืนยันว่าคดีนี้เป็นได้แค่คดีประมาท ซึ่งตนเองอยากจะให้คุณแม่ไปพบอัยการเจ้าของสำนวนเพื่อดูรายละเอียดจะได้ทราบเหตุและผล
ส่วนที่นายอัจฉริยะบอกว่ามีภาพคราบเลือดบนเรือ ตนยืนยันว่าจากที่ได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ พยานหลักฐานนี้ไม่มีอยู่จริง แต่พูดไปคนคงไม่ชอบ และหากนายอัจฉริยะบอกว่ามั่นใจในพยานหลักฐาน แต่คุณแม่เพิ่งให้สัมภาษณ์บอกว่าหลักฐานไม่ชัดเจน ตนจึงไม่ทราบว่านายอัจฉริยะเอาหลักฐานชุดไหนให้คุณแม่ดู จุดนี้เป็นสิ่งที่น่าสงสัย ยืนยันสิ่งที่ตนพูดไม่เคยผิดที่บอกว่าเป็นคณะตลก ซึ่งอีกฝ่ายรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมจึงแนะนำคุณแม่ให้ฟ้องคดีฆาตกรรม และที่ตนเคยพูดไว้ว่าการที่คุณแม่ไปเข้าร่วมกับนายมงคลกิตติ์ และนายอัจฉริยะ อีกไม่นานแพก็จะแตก จริงๆ แพแตกมาตั้งนานแล้ว เพราะไม่ได้มีใครเห็นไปในทางเดียวกัน แม้แต่นายมงคลกิตติ์กับนายอัจฉริยะเองก็ยังเห็นไม่ตรงกัน
คาด 1-2 เดือน ชี้มูลความผิด ส.ส.เต้ ได้
ทนายเดชา เปิดเผยด้วยว่า กรณีตนยื่นเรื่องกับคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบนายมงคลกิตติ์ ว่าพฤติกรรมเข้าข่ายการผิดจริยธรรมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างร้ายแรงหรือไม่นั้น ล่าสุดตนได้รับหนังสือให้เข้าไปให้ถ้อยคำในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ หลังจากให้ถ้อยคำแล้วเรื่องจะถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ทันที คาดว่าประมาณ 1-2 เดือน จะสามารถชี้มูลความผิดได้
ขณะที่ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้รับคำตอบว่าเรื่องนี้ให้สอบถามกับนายมงคลกิตติ์ได้เลย ตนไม่ขอตอบ ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ระบุว่ากรณีนี้ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับคุณแม่แล้ว ซึ่งคุณแม่แค่มีความเป็นห่วงว่าหากฟ้องร้องข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เกรงว่าจะถูกฟ้องกลับ ทีมกฎหมายของพรรคไทยศิวิไลย์ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และทนายชนบท ศุภศรี จึงกำลังไปศึกษาคำพิพากษาเก่าของศาลฎีกา เพื่อพิจารณาว่าจะสามารถฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายได้หรือไม่ โดยจะมีการประชุมภายในระหว่างทีมงานกันอีกครั้งวันที่ 13 มิถุนายนนี้ แต่ยืนยันว่าต้องฟ้องร้องดำเนินคดีแน่นอน.-สำนักข่าวไทย